++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สธ.หยุดรายงานตัวเลขหวัด 2009 เตือน ปชช.ระวังทั้งสายพันธุ์ใหม่-เก่า ความรุนแรงเท่ากัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

สธ. หยุดรายงานตัวเลขผู้ป่วยหวัด 2009 เผยไม่ใช่โรคร้ายแรง
เพราะไวรัสหวัดมีการเปลี่ยนแปลงทุกปีอยู่แล้ว เตือน 5 เดือน
คนไทยป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลแล้วกว่า 5 พันราย
ระบุจะสุ่มตรวจเชื้อเฉพาะที่จำเป็น
วอนประชาชนใส่ใจป้องกันหวัดใหญ่ทั้งพันธุ์เก่า-ใหม่
เพราะอาการและความความรุนแรงระดับเดียวกัน ชี้ปิดโรงเรียนไม่ช่วยอะไร
ควรให้นักเรียนป่วยหยุดเรียนมากกว่า

แฟ้มภาพ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 15 มิ.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุพรรณ
ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
แถลงข่าวภายหลังการประชุมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุม
แก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น
หรือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า วันนี้ (15
มิ.ย.)กระทรวงสาธารณสุขตรวจพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์
ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 51 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเอกชน 28
ราย โรงเรียนอื่นๆ 10 ราย
และผู้ป่วยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและติดเชื้อภายในประเทศ 13 ราย
รวมเป็น 201 ราย และจากนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
เพราะขณะนี้ประเทศไทยมีการแพร่ระบาดของเชื้อภายในประเทศแล้ว
แต่ไม่อยากให้ประชาชนแตกตื่น เนื่องจากผู้ติดเชื้อ 95% จะหายได้เอง
มีเพียง 5 %ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอาจเป็นเพราะมีโรคประจำตัวอื่นๆ
อยู่ก่อนแล้ว ทำให้มีอาการที่รุนแรงขึ้นกว่าคนทั่วไป

หยุดรายงานตัวเลขผู้ป่วยหวัดใหญ่ 2009 ทั้งประเทศ
นพ.สุพรรณ กล่าวด้วยว่า ในการรายงานตัวเลขผู้ป่วย จากนี้
สธ.จะรายงานเป็นยอดรวมของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งสายพันธุ์ใหม่และเก่า
โดยไม่มีการให้รายละเอียดของผู้ป่วย
แต่อาจจะมีการแยกให้เห็นว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวนเท่าไหร่
และสายพันธุ์เก่าจำนวนเท่าไหร่
ซึ่งการรายงานตัวเลขของผู้ป่วยสายพันธุ์ใหม่นั้น
จะรายงานเฉพาะจำนวนผู้ป่วยที่มีการสุ่มเชื้อมาตรวจเท่านั้น
หมายความว่าจากนี้ไปตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จะไม่ใช่ตัวเลข
ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ทั้งประเทศ
แต่เป็นตัวเลขผู้ป่วยที่มีการสุ่มตรวจเชื้อ

ปลัด สธ.สั่งปิดปากเลิกให้ตัวเลข-ข้อมูลผู้ป่วย
โฆษก สธ.กล่าวอีกด้วยว่า
สธ.จะทำหนังสือที่ลงนามโดยปลัดกระทรวงสาธารณสุขแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุข
จังหวัด (สสจ.) และผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศงดการให้ข่าวตัวเลขผู้ป่วยและรายละเอียด
ของผู้ป่วย สามารถให้ได้เฉพาะข้อมูลการป้องกันโรคเท่านั้น
เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนกับตัวเลขที่ออกจาก สธ. และในวันที่ 16
มิถุนายนนี้ เวลา 09.00 น.
สธ.จะจัดประชุมแพทย์ที่ทำหน้าที่ในการตรวจรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ทั้งภาค
รัฐและเอกชน ประมาณ 500 คน ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์
เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยและการประเมินสถานการณ์ของโรค

ชี้ให้ นร.ป่วยหยุดเรียนดีกว่าปิดโรงเรียน
"มี โรงเรียนประกาศปิดเรียนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน
เป็นเพราะมีความตื่นตระหนก ทั้งที่การปิดโรงเรียนมีประโยชน์น้อย
แต่การเปลี่ยนมาใช้มาตรการให้นักเรียนที่ป่วยหยุดอยู่กับบ้านดีกว่าการปิด
โรงเรียน และ สธ.ขอย้ำว่าสิ่งสำคัญคือวิธีการป้องกันตัวเองที่ถูกต้อง
จะช่วยชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ดีที่สุด เช่น การกินร้อน
ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่หน้ากากอนามัย
ซึ่งการรู้ป้องกันตนเองไม่ให้รับเชื้อจากผู้ป่วยและป้องกันเชื้อแพร่สู่คน
อื่นดีที่สุด เพราะขณะนี้มีเชื้ออยู่ทั่วประเทศ
ไม่สามารถห้ามไม่ให้เชื้อแพร่ไปในระดับภูมิภาคได้แล้ว"นพ.สุพรรณกล่าว

แฟ้มภาพ
นพ.ศุภมิตร์ ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวว่า
ภายใน 2-3 วัน สธ.จะดำเนินการแจ้งให้แพทย์และพยาบาลปรับวิธีการวินิจฉัย
โดยหากพบว่าผู้ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีการวินิจฉัยว่าเป็นไข้
หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือเก่า แต่ให้ดำเนินการรักษาเหมือนกันทั้งหมด
และในการตรวจสอบเชื้อหาสายพันธุ์ของไวรัส
จะไม่เก็บเชื้อผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มาตรวจสอบสายพันธุ์ในห้องปฏิบัติการทุกราย
เนื่องจากในการรักษาดำเนินการเหมือนกัน
ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์ใด
แต่ยังต้องมีการสุ่มตรวจเชื้อจากผู้ป่วยบ้างเพื่อเฝ้าระวังการกลายพันธุ์
ไม่จำเป็นต้องทำเกินกว่านี้เพราะไม่มีประโยชน์

ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวด้วยว่า
ข้อมูลทางวิชาการระบุว่าในแต่ละปีทั่วโลกมีไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่
เกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว
แต่มีลักษณะทางโครงสร้างที่คล้ายคลึงกันจึงไม่มีความแตกต่างของโรค
หมายความว่า เชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการกลายพันธุ์ในระดับเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอดเวลาอยู่
แล้ว จะเห็นได้จากการที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี
เพราะไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดในแต่ละปีเป็นคนละสายพันธุ์กัน
ทำให้วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดในปีก่อนหน้า
ไม่สามารถใช้ได้กับสายพันธุ์ที่ระบาดในปีต่อไป

หวัดสายพันธุ์ใหม่-เก่ารุนแรงเท่ากัน
นพ.ศุภมิตร กล่าวอีกว่า ส่วนไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
มีโครงสร้างต่างจากสายพันธุ์อื่นๆ พอสมควร
ทำให้มีการแพร่กระจายเร็วไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆที่เกิดขึ้นในแต่ละปี
แต่อาการและความรุนแรงคล้ายกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เก่า
ขณะนี้ทั่วโลกจึงมองไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
เหมือนกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่ระบาดตามฤดูกาลทั่วไป
การป้องกันและการรักษาก็เหมือนกัน
ประเทศไทยก็เช่นเดียวกันกำลังดำเนินการปรับความรู้ความเข้าใจของประชาชนให้
รู้สึกว่าไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เป็นเพียงแค่ไข้หวัดใหญ่ทั่วไป

"คน ไทยอาจจะสับสนเพราะเดือนที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขนำเสนอประหนึ่งว่าโรคนี้
มีความรุนแรงมาก ประชาชนต้องตื่นตัวในการรับมือและป้องกัน
แต่มาเดือนนี้กลับบอกว่า
เชื้อไม่มีความรุนแรงเหมือนกับไข้หวัดใหญ่ธรรมดาทั่วไป
นั่นเป็นเพราะในระยะแรกยังไม่มีข้อมูลการศึกษาเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่นี้ว่า
จะมีความรุนแรงแค่ไหน จำเป็นต้องบอกให้ประชาชนระมัดระวังตัวไว้ก่อน
แต่เมื่อมีการศึกษาจึงได้มีความรู้มากขึ้นว่าความรุนแรงไม่แตกต่างจากไข้
หวัดใหญ่ทั่วไป ถือเป็นโอกาสดีที่จะทำให้ประชาชนมีความตื่นตัวในการป้องกันตนเองไม่ให้ติด
เชื้อไข้หวัดใหญ่ทั้งพันธุ์เก่าและใหม่มากขึ้น โดยไม่แยกสายพันธุ์
เพราะการป้องกันเหมือนกัน"นพ.ศุภมิตรกล่าว

นพ.ศุภมิตร กล่าวอีกด้วยว่า ประเทศไทยมีรายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
1-4 หมื่นรายต่อปี ซึ่งในความเป็นจริงมีจำนวนผู้ป่วยมากกว่านี้
เพียงแต่ไม่มีการรายงานผู้ป่วยเพราะมีอาการไม่รุนแรง
ไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล และจากการศึกษาวิจัยใน 2 จังหวัด
พบว่า มีผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาจากการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ 9
แสนรายต่อปี โดยที่ประชาชนไม่สนใจ
อาจเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
ส่วนผู้ป่วยในที่ป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่
จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยอาการปอดบวม
โดยไม่ได้สนใจว่าเป็นไข้หวัดใหญ่หรือไม่

แฟ้มภาพ
5 เดือนคนไทยป่วยหวัดใหญ่กว่า 5 พันราย
นพ. ภาสกร อัศวเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า
ตั้งแต่เดือนมกราคม - 6 มิถุนายน 2552
ประเทศไทยมีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลแล้ว5,399 ราย เฉพาะ 1
สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2552 พบผู้ป่วย 288 ราย
ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ขณะที่ในปี 5
ปีย้อนหลังพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ประมาณ 1.1-1.3หมื่นราย
เท่ากับว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลใน 1 สัปดาห์
มีจำนวนมากกว่าผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่พบในรอบ 2
เดือนซึ่งมีเพียง 201 รายเท่านั้น

ทำสมุดปกเขียวแจง ปชช.
ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก สธ.กล่าวว่า
สธ.จะดำเนินการจัดทำสมุดปกเขียว เพื่อทำความเข้าใจ
คลายความวิตกกังวลและให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์
ใหม่ 2009 เนื่องจากประชาชนมีข้อสงสัยและสอบถามข้อมูลเข้ามาที่กระทรวงฯเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่เป็นห่วงบุตรหลาย
และพบว่าประชาชนมีความเครียดจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคนี้มากถึง
80-90 % โดยจะเร่งดำเนินการรวบรวมและจัดทำโดยเร็วที่สุด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า
ปัจจุบันสื่อมีการนำเสนอในลักษณะที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สาย
พันธุ์ใหม่ 2009 หลักๆ ใน 3 ประเด็น ได้แก่
1.ทำไมถึงมีผู้ป่วยจำนวนมากในช่วงเวลาสั้นๆ ขอชี้แจงว่า
เป็นธรรมชาติของโรค
ที่เมื่อเกิดโรคขึ้นก็จะพบจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่ผ่านมา
สธ.พยายามดำเนินมาตรการเพื่อชะลอเวลาที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคในประเทศ
ให้นานที่สุด เพราะอย่างไรเสีย ก็จะต้องเกิดการแพร่ระบาดในประเทศแน่นอน
ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่นเดียวกับ ประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
ส่วนจะระบาดเป็นจำนวนมากน้อยแค่ไหนไม่มีใครรู้
ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนในการช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไม่
ให้สูงขึ้น

2.สธ.ปกปิดข้อมูลหรือไม่จากการไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยและโรงเรียน
ขอชี้แจงว่า สธ.ไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่ที่ไม่สามารถบอกข้อมูลผู้ป่วยได้เนื่องจากผู้ป่วย
ต้องการให้มีการปกปิด จึงต้องเคารพในสิทธิผู้ป่วย
ส่วนโรงเรียนจำเป็นต้องรอผลการตรวจยืนยัน
เชื้อจากห้องปฏิบัติการให้ชัดเจนก่อน
เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับโรงเรียน และ
3.สธ.จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการหรือไม่นั้น
สธ.ได้ดำเนินการมาตรการระดับสูงสุดอยู่แล้ว
เหลือเพียงระดับของประชาชนที่ต้องให้ความร่วมมือเท่านั้น

**แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคาดอีก 1 ด.ผู้ป่วยหวัดใหญ่พันธุ์ใหม่พุ่งสูง
รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมการแพทย์
กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1
เอ็น 1 ในประเทศไทยต่อจากนี้ไปอีกประมาณ 1 เดือน
คาดว่าจะพบผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก
เนื่องจากประสบการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในประเทศอื่นๆก่อนหน้านี้
อาทิ สหรัฐอเมริกา หรือแม้แต่ในญี่ปุ่นก็พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นวันละ 300-400
ราย แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยที่พบก็อยู่ในระดับน้อยลงหรือคงที่ซึ่งวันนี้ญี่ปุ่น
ก็พบจำนวนผู้ป่วยช้าลง

"อย่างไรก็ตามไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่าจะมีจำนวนเท่าใด
เพิ่มขึ้นสูงมาก หรือสูงปานกลางก็ไม่สามารถบอกได้
เพราะผู้ป่วยอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่แสดงอาการจึงทำให้ไม่ทราบตัวเลขที่แท้
จริง รวมถึงไม่สามารถรับประกันว่าโรคดังกล่าวจะไม่มีการแพร่กระจายอีก
เพราะเชื้อก็ยังคงอยู่ในโลกนี้
และก็ยังมีคนที่ยังไม่ป่วยที่สามารถรับเชื้อดังกล่าวได้อยู่ตลอดเวลา
แต่อยู่ที่ว่าเราจะต้องควบคุมการติดเชื้อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาพยาบาล
ซึ่งหนทางสุดท้ายที่จะลดการติดเชื้อจากผู้ที่ไม่เคยได้รับเชื้อมาก่อนก็คือ
การฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวออกมา"รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี
กล่าว

รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า
ทั้งนี้ยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่คือ
ยาโอเซลทามิเวียร์ ที่ขณะนี้สธ.ได้สำรองยาไว้ประมาณ 5
ล้านเม็ดหรือสำหรับผู้ป่วย 5 แสนคนนั้น
ยังถือว่าเพียงพอต่อการแพร่ระบาดภายในประเทศ
หากไม่เพียงพอก็สามารถสั่งซื้อวัตถุดิบมาและองค์การเภสัชกรรมก็สามารถผลิต
สำรองไว้เพื่อความั่นคงของประเทศได้
โดยทางสธ.ได้วางแผนการจัดสรรยาดังกล่าวสำหรับทุกสถานการณ์ไว้แล้ว
โดยปกติได้กระจายยาให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแต่ละแห่งเป็นผู้สต็อกยาและ
กระจายไปยังสถานพยาบาลที่พบผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น