++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2552

คนโง่...คนฉลาด...คนเจ้าปัญญา

บทความจากสหายธรรม ปลาทะเล อนุโมทนาธรรมทานด้วยครับ

---------- Forwarded message ----------
From: ปลา ทะเล


ห่างไกลเกิน คนข้างที่ห่างไกล อย่าน้อยใจให้คอยนาน


คนโง่...คนฉลาด...คนเจ้าปัญญา


ว่าด้วยความคิด
คนโง่ : ทำก่อนแล้วจึงคิด จึงผิดพลาดอยู่เนืองๆ
ต้องเปลืองเวลาและความรู้สึก ตามแก้ปัญหาไม่สิ้นสุด
คนฉลาด : คิดมากก่อนแล้วจึงทำ จึงเพ้อเจ้ออยู่เป็นประจำ
แม้ประสงค์จะทำดีทากแต่ทำได้น้อย เพราะเขม่าความคิดปิดกั้นความกล้าหาญ
คนเจ้าปัญญา : คิดไปทำไป จึงทำได้อย่างที่คิด
และคิดพอดีที่ทำประหยัดพลังงานและบริหารเวลาได้เหมาะสม
ลดความหลอนป้องกันความผิดพลาดขื่นขมและประสบความสำเร็จโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

ว่าด้วยทัศนคติ
คนโง่ : ดูหมิ่นความดี มองโลกในแง่ร้ายด้านเดียว
จึงได้รับแต่สิ่งชั่วร้ายมาพาชีวิตตกต่ำ กลายเป็นทาสสถานการณ์
ยามพบสิ่งดีจะไม่เข้าใจจึงพลาดโอกาสใหญ่
คนฉลาด : ชอบทำดีและคิดดี มักมองโลกในแง่ดีด้านเดียว
จึงได้แต่สิ่งดีโดยมาก ครั้นพบสิ่งชั่วร้าย จะทนไม่ได้ ทำใจไม่เป็น
ต้องถอยหนีสถานการณ์ดวงใจแตกร้าว
ชีวิตจึงมีแต่ความระคายเคืองและปฏิฆะเร้นลึก
คนเจ้าปัญญา : ละชั่วเด็ดขาด และทำดีเป็นนิสัย โดยไม่ติดดี
แล้วละแม้ความดีเข้าสู่ความบริสุทธิ์
จึงเห็นที่สุดแห่งความเป็นจริงแท้แห่งโลกว่าทุกสิ่งในโลกมีทั้งคุณ โทษ
และความเป็นกลางอยู่ จึงบริหารสถานการณ์ได้ และทำใจได้ในทุกภาวการณ์

ว่าด้วยความโง่และความฉลาด
คนโง่ : ชอบคิดว่าตนฉลาดแล้ว จึงดักดานอยู่กับความโง่ของตนตามที่เป็น
คนฉลาด : ชอบคิดว่าตนโง่ จึงชอบแกล้งโง่ และมักโง่ได้สมปรารถนาในที่สุด
คนเจ้าปัญญา : ย่อมเห็นความโง่และความฉลาด ที่ซ้อนกันอยู่
และวิธีที่จะยกจิตสู่ปัญญายิ่งๆขึ้นไป จึงค่อยๆ หายโง่
และเลิกฉลาดโดยลำดับ

ว่าด้วยการพูดจา
คนโง่ : ชอบเถียง เขาจึงได้การทะเลาะ และความบาดหมางแทนความรู้
คนฉลาด : ชอบถาม เขาจึงได้ความรู้ และมิตรภาพมากกว่าความแตกแยก
คนเจ้าปัญญา : ชอบเฉยสังเกตลึก เข้าใจสิ่งต่าง
อย่างลึกซึ้งแล้วจึงนำเสนออย่างเหมาะสม

ว่าด้วยการจัดการกับปัญหา
คนโง่ : พอพบกับปัญหาอะไรก็โวยวาย
ก่อให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และความสัมพันธ์อีกหลายชั้น
จึงยิ่งเสียหาย......
คนฉลาด : พอพบปัญหาก็วิเคราะห์ เป็นการใช้ความคิดแก้ปัญหา
จึงมักติดบ่วงความคิด วนไปวนมา......
คนเจ้าปัญญา : พอพบปัญหาอะไรก็วางก่อน
พอเป็นอิสระมีอำนาจเหนือกว่าปัญหาแล้ว
จึงจัดการกับปัญหานั้นอย่างเหนือชั้น.......

ว่าด้วยการบริหารและการปกครอง
คนโง่ : พยายามบริหารคน จึงวุ่นวายสับสนตามธรรมชาติของคน
คนฉลาด : พยายามบริหารประโยชน์สัมพันธ์ จึงยุ่งยากซับซ้อนตามปรารถนาอันไม่สิ้นสุด
คนเจ้าปัญญา : พยายามบริหาระบบธรรม จึงสงบลงตัว ณ จุดพอดี.....

ว่าด้วยความคิด!!!
คนโง่ : เห็นแต่ความชั่วร้ายของคนอื่น และโยนความผิดให้ผู้อื่นอยู่เรื่อย
เป็นการทำมิตรให้กลายเป็นศัตรู ชีวิตจึงอยู่ในท่ามกลางอันตราย
คนฉลาด. : เห็นแม้ความชั่วร้ายในตนเอง จึงกล้ายอมรับความจริงและแก้ไขตัว
ทำให้ตนดีขึ้น ทำให้แม้ศัตรูก็ยอมรับได้มากขึ้น
ชีวิตจึงเจริญและผาสุกโดยลำดับ
คนเจ้าปัญญา : เห็นความชั่วร้ายสากล จึงเข้าใจทุกคนในทุกสถานการณ์
เห็น***ส่วนการบริหารคนที่เหมาะสม โดยไม่ทำร้ายคน
แต่จะทำลายความชั่วสากลให้สิ้นไป จึงสนุกสนานในการบริหารเรื่อยไป......

ว่าด้วยการบริหารธรรม
คนโง่ : ดูหมิ่นธรรมะ ชีวิตจึงหายนะ
คนฉลาด : ศึกษาธรรมะ จึงรู้ลึก และดำเนินชีวิตด้วยดี
คนเจ้าปัญญา : ใช้ธรรมะ จึงดำเนินชีวิตอย่างเหนือชั้น!!.......

ว่าด้วยการทำงาน
คนโง่ : ทำงานเพื่อเงิน จึงได้เงินมาอย่างยากเย็นและมักไม่ได้คุณค่าอื่นๆของงาน
คนฉลาด : ทำงานเพื่องาน จึงได้ผลงานที่ยิ่งใหญ่และได้เงินตามมาโดยง่าย
คนเจ้าปัญญา :.ทำงานเพื่อหยิบยื่นคุณค่าแก่สังคม
เขาจึงได้ผลงานที่น่าชื่นชม เงิน
ชื่อเสียงและมิตรมหาศาลย่อมตามมาเสมอ......

ว่าด้วยการสนองตอบผู้มีพระคุณ
คนโง่ : เนรคุณผู้มีบุญคุณ จึงไม่มีใครอยากทำดีกับเขาอีก
คนฉลาด : กตัญญูผู้มีพระคุณ จึงมีคนอยากทำดีกับเขามากมาย
ซึ่งต้องตามชดใช้บุญคุณกันไม่รู้จบ
คนเจ้าปัญญา : ยกระดับผู้มีบุญคุณให้สูงส่งขึ้น จึงทดแทนบุญคุณกันได้หมด
และผู้มีพระคุณกลายเป็นหนี้บุญคุณ และพร้อมที่จะให้พระคุณที่ยิ่งกว่า
เกิดวงจรการให้ และการรับที่พัฒนาต่อเนื่องทุกฝ่ายจึงได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง

ว่าด้วยความเพียร
คนโง่ : มัวขยันในเรื่องไร้สาระ จึงมักพบปะแต่เรื่องไร้ประโยชน์
แล้วมักตัดพ้อว่า ทำไมทำดีแล้วไม่ได้ดี
คนฉลาด : มักขยันในเรื่องที่มีคุณมากมีโทษน้อย
จึงได้ประโยชน์มากและมีโทษแทรกบ้าง
แล้วมักบ่นว่าอุตส่าระวังอย่างสุดแล้วยังพบเรืองร้ายๆ อีก
คนเจ้าปัญญา : ขยันทำตนให้เหนือคุณและโทษ จึงบริหารสถานการณ์อย่างอิสระ
ไม่ปรากฏเสียงตัดพ้อหรือบ่นว่าอีกต่อไป

ว่าด้วยความจริงจัง
คนโง่ : เห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ในชีวิตเป็นเรื่องจริงจัง จึงเครียดแทบบ้า
คนฉลาด : เห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ในชีวิตเป็นเรื่องเล่นๆ จึงสนุกสนานจนไร้สาระ
คนเจ้าปัญญา : เห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ในชีวิตเป็นตัวเร่งวิวัฒนาการ
จึงรุ่งเรืองรวดเร็ว

ว่าด้วยความประสบความสำเร็จ
คนโง่ : รอให้ความสำเร็จมาหา อาจต้องรอหลายชาติกว่าจะพบซักครั้ง
คนฉลาด : เดินไปหาความสำเร็จ จึงอาจมีโอกาสพบบ้างแม้เหนื่อยยาก
คนเจ้าปัญญา : ปักหลักสร้างความสำเร็จ หากสร้างความสำเร็จแน่ๆ และเหนื่อยน้อยกว่า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น