++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เรื่องของยาเคมีบำบัด/รศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มิถุนายน 2552 07:20 น.
เรื่องโดย...รศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์ สูตินรีแพทย์

เรา ทราบกันดีว่า ยาเคมีบำบัด เป็นยารักษามะเร็งโดยเฉพาะ
ที่มีฤทธิ์ทำลาย ยับยั้งการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง
ซึ่งอาจใช้ร่วมกับการผ่าตัด การฉายแสง หรือ ให้ยาฮอร์โมน
โดยยาที่ใช้อาจเป็นชนิดเดียวหรือหลายชนิดร่วมกันทั้งนี้ขึ้นกับชนิดของ
มะเร็งและระยะของโรค รวมทั้งสภาวะของผู้ป่วย
สำหรับวิธีการให้มีหลายวิธีขึ้นกับชนิดของโรคและชนิดของยา ได้แก่
การรับประทาน ฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือใต้ผิวหนัง ฉีดเข้าบริเวณไขสันหลัง
ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
โดยฉีดเข้าหลอดเลือดดำโดยตรงหรือผสมยาเคมีบำบัดในขวดสารน้ำและให้หยดอย่าง
ต่อเนื่องเข้าหลอดเลือดดำ และฉีดเข้าช่องท้อง

เพื่อช่วยให้ผู้ที่เป็นมะเร็งได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธีและปลอดภัย
เรามีคำแนะนำดังนี้ค่ะ

การเตรียมตัวก่อนให้ยาและการปฏิบัติขณะรับยาเคมีบำบัด

1.บำรุงร่างกายให้แข็งแรง โดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น
เนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักและผลไม้ ควรรับประทานอาหารที่รสไม่จัด ย่อยง่าย
และดื่มน้ำมากๆ ไม่น้อยกว่าวันละ 2-3 ลิตร

2.พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สงบ

3.หากมีฟันผุ หรือเหงือกอักเสบ
ควรพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อนเริ่มรับยาเคมีบำบัด
แต่ถ้าต้องการรักษาฟันผุหรือเหงือกอักเสบระหว่างนับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
จะต้องตรวจเลือดก่อนทำฟันเพื่อดูจำนวนเกร็ดเลือด

4.รับการตรวจเลือดเพื่อดูความพร้อมของร่างกายก่อนให้ยา

5.รับประทานอาหารก่อนเริ่มรับยาเคมีบำบัดประมาณ 2-3
ชม.ควรปัสสาวะให้เรียบร้อยก่อนเริ่มรับยา

6.นอนในท่าที่สบายที่สุด
ไม่ควรเคลื่อนไหวหรือยกแขนข้างที่รับยามากเกินไป
(ในกรณีที่ให้ยาทางหลอดเลือดดำ) ไม่เปิด ปิด หรือปรับหยดของสารน้ำเอง
หากสารน้ำหยดเร็วปกติ หรือมีอาการปวดบวม
บริเวณที่ได้รับสารน้ำควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที

7.บ้วนปากบ่อยๆ ก่อนและหลังอาหารด้วยน้ำอุ่น หรือน้ำเกลืออ่อนๆ
เพื่อช่วยให้ปากสะอาดและเพิ่มความอยากอาหาร

8.ควรแจ้งอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นกับท่านในระหว่างได้รับยาเคมีบำบัดให้แพทย์ทราบเพื่อจะได้รับการดูแลต่อไป

ระยะเวลาและจำนวนครั้งของการให้ยาเคมีบำบัด

โดยทั่วไปแพทย์จะให้ยาเคมีบำบัด 3 ชุดขึ้นไป แต่ละครั้งอาจใช้เวลา
1-2 วัน หรือมากกว่า
และมีระยะพักของการให้ยาแต่ละครั้งแตกต่างกันขึ้นกับการรักษา
โดยมากมักจะให้ประมาณ 6 ครั้ง ทั้งนี้ ขึ้นกับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค
ตลอดจนการตอบสนองต่อยา
จึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ท่านต้องมารับยาตามนัดทุกครั้ง
หากไม่สามารถมารับการรักษาตามนัดได้
ควรสอบถามกับแพทย์เพื่อพิจารณาเลื่อนการรักษาออกไป
ไม่ควรขาดการรักษาไปเอง

นอกจากนี้ ก่อนรับยาและช่วงระหว่างรับยาแต่ละครั้ง
แพทย์จะตรวจร่างกายและตรวจเลือดเพื่อประเมินว่าสุขภาพร่างกายของท่านแข็งแรง
พอที่จะรับยาในครั้งนั้นๆ ได้หรือไม่ และภายหลังการให้ยาเคมีบำบัด
แพทย์จะมีการติดตามผลการรักษาเป็นระยะๆ โดยการตรวจร่างกาย การตรวจภายใน
ตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด การตรวจอัลตราซาวนด์ การตรวจคอมพิวเตอร์สแกนต่างๆ
เป็นระยะๆ หากผลการรักษาไม่ดีพอหรือเนื้องอกไม่ยุบ
แพทย์จะเปลี่ยนชนิดของยาเคมีบำบัด
หรือเปลี่ยนวิธีการรักษาตามความเหมาะสมแล้วแต่ละราย

ขณะรับยาเคมีบำบัดจะสามารถใช้ยาอื่นร่วมด้วยได้หรือไม่

ยาบางชนิดอาจมีผลต่อยาเคมีบำบัด
ท่านควรแจ้งให้แพทย์ทราบว่าใช้ยาอะไรอยู่เป็นประจำ
และควรหลีกเลี่ยงการซื้อยารับประทานเองในระหว่างที่ท่านได้รับยาเคมีบำบัด

ผลข้างเคียงจากการรับยาเคมีบำบัดมีหรือไม่

ยาเคมีบำบัดแทบทุกชนิดจะมีผลข้างเคียง
โดยอาจมีอาการขณะกำลังได้รับยาเคมีบำบัดหรือภายหลังจากได้รับยาแล้ว
สาเหตุเกิดจากขณะที่ยาไปทำลายเซลล์มะเร็งที่กำลังแบ่งตัวก็อาจจะมีผลต่อ
เซลล์ปกติของร่างกายที่มีการแบ่งตัวได้เช่นกัน
แต่จะมีผลน้อยกว่าและมีผลต่อเซลล์บางชนิดเท่านั้น
ท่านควรแจ้งผลข้างเคียงของยาที่เกิดกับท่านให้แพทย์ทราบทุกครั้ง
ในขณะที่ได้รับยาหรือก่อนมารับยาครั้งต่อไป
เพื่อที่แพทย์จะได้ปรับขนาดของยาให้เหมาะสมกับท่าน
ซึ่งผลข้างเคียงนี้มิใช่จะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยทุกราย
และขึ้นกับชนิดของยาเคมีบำบัด

การปฏิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน

1.ทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติแต่หลีกเลี่ยงการทำงานหนัก
แต่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ

2.ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและสม่ำเสมอ

3.รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครั้งละน้อย ๆ
แต่บ่อยครั้งในระยะที่มีอาการคลื่นไส้ หรืออาเจียน
และดื่มน้ำไม่น้อยกว่าวันละ 2 - 3 ลิตร

4.หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่แออัด เช่น โรงภาพยนตร์
และหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ผู้ป่วยโรคติดเชื้อต่าง ๆ เช่น ไข้หวัด วัณโรค
ปอด ผู้ป่วยที่มีไข้

5.การมีเพศสัมพันธ์จะต้องไม่รุนแรง
และคู่สมรสจะต้องไม่มีการติดเชื้อของอวัยวะสืบพันธุ์
ยกเว้นในรายที่มีเลือดออกทางช่องคลอด หรือตามคำแนะนำของแพทย์

6.ภายหลังได้รับยาเคมีบำบัดประมาณ 2 สัปดาห์
ควรรับการตรวจเลือดเพื่อดูการทำงานของไขกระดูก
และนำผลเลือดมาให้แพทย์ดูรวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ

ที่สำคัญ จะต้องกลับมารับยาเคมีบำบัดตามแพทย์นัด
ในกรณีที่มีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ หนาวสั่น มีเลือดออก ท้องเสีย
คลื่นไส้อาเจียนมาก ควรมาโรงพยาบาลทันที ไม่ต้องรอให้ถึงวันนัด

-------------------------------------------------------------------
อยากรู้ใช้ยาอย่างไรปลอดภัย

โรงพยาบาลศิริราช ชวนฟังบรรยายสุขภาพเพื่อประชาชนเรื่อง
"สาระน่ารู้เกี่ยวกับการใช้ยา" โดย ภญ.อุไรวรรณ ศิลปศุภกรวงศ์ และ
ภญ.วุฒิรัต ธรรมวุฒิ ฝ่ายเภสัชกรรม ในวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2552 เวลา
10.00-11.30 น.ณ ห้อง 7008 ตึกสยามินทร์ ชั้น 7 รพ.ศิริราช
โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2419-7419, 0-2419-8990

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000062501

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น