มี หลายคำพูดที่นักการเมืองเก่าๆชอบหยิบยกขึ้นแอบอ้าง อาทิ
.."เรามาจากการเลือกตั้ง" ทั้งๆที่ซื้อเสียงมา
สุนัขแถวนั้นมันยังเบื่ออาหาร
ทั้งๆที่มีแต่ของดีๆทั้งน้าน..โดยเฉพาะทางอีสานบ้านผมเอง
จนมีคำพูดที่เปรียบเปรยว่า "ไม่ว่าหมา หรือ ควาย ก็เป็น ส.ส.อีสานได้
ขอให้มีเงิน" เพราะในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเป็นเช่นนั้นจริงเสมอมา..
..."ในสภาอันทรงเกียรติ์ กลายเป็นสภาไร้เกียรติ์ เมื่อมีนักการเมืองถ่อย
ที่ใช้สภาเป็นเวทีสำรอก คำหยาบคายออกโทรทัศน์
ราวกับอยู่ท่ามกลางฝูงม็อบที่พวกเขาหลอกล่อเอาประชาชนเป็นเครื่องมือ
แล้วสถาปนาตนเองขึ้นเป็นแกนนำๆ
ที่มิได้มีจิตวิญญาณแห่งความจงรักภักดีต่อชาติและประชาชน
แต่เป็นการแสดงละครให้สะใจเจ้านาย เพื่อประโยชน์ของตนเอง
และเชื่ออีกว่าเขาก็มิได้จงรักภักดีต่อเจ้านายอย่างแท้จริงหรอก
วันเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
...ในบรรดานักการเมืองหน้าเก่าๆแก่ๆที่คร่ำครึในวงการเมืองมานาน
กอบโกยและโกงเอาสมบัติของชาติบ้านเมืองไปที่ใครๆก็รู้
แต่ยังวนเวียนเชิดหน้าออกมาแสดงความคิดความเห็นที่ฟังแล้วล้วนดูถูกสติปัญญา
ของประชาชน มักอ้างประโยชน์ของประชนและของชาติอยู่เสมอ
แท้ที่จริงแล้วก็เพื่อรักษาอำนาจ ตำแหน่ง และผลประโยชน์ของตน
แถมสืบทอดมรดกบาปไปสู่ลูกเมียญาติพี่น้องอย่างเหนียวแน่น
... ชาวอีสานบ้านฉันเอ๋ย...ใยปล่อยให้คนภาคอื่นเมืองอื่น
มาจูงจมูกท่านอย่างไร้เกียรติ์และศักดิศรีอยู่ได้
ท่านรู้ไหมพวกเขาที่ท่านยกให้เป็นผู้นำของท่านนั้น
บ้านเขาเองยังไม่ต้อนรับเลย และในระหว่างพวกเขากันเอง
ทุกวันนี้ยังกัดกันนัวเนียเพราะผลประโยชน์เขาไม่ลงตัว
หาใช่ผลประโยชน์ของพี่น้องชาวอีสานไม่ ตาสว่างเสียเถอะครับ
... เรื่องรถเมล์อเวจี 4 พัน 6 พัน คัน นั้น หยุดเถอะครับท่านรัฐบาล
หรือท่านจะอยากเห็นวันสูญพันธุ์ของพวกท่าน โดยเฉพาะใน กทม. ท่านนายกฯ
จะอยู่ในหัวใจประชนชนหรือไม่ งานนี้แหละท่านต้องแสดงความกล้าหาญแล้วละ
ไม่งั้นท่านก็คงจะเป็นนายกอีกคนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
ที่ต้องลงจากตำแหน่งเพราะถูกคนไทยส่วนใหญ่ออกมาขับไล่ท่านลงอย่างไร้ความ
สง่างาม..
ฯลฯ
...ยังมีความอัปยศอีกหลายอย่างที่อยากให้ เพื่อนๆ
ชาวไทยได้ช่วยกันขุดคุ้ยขึ้นมาประจาน
เผยแพร่ต่อสาธารณะให้คนที่ยังไม่รู้ได้รับรู้ความจริง
แม้ว่าจะมีสื่อที่มุ่งรักษาผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าผลประโยชน์ของชาติ
และตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองไปเสียแล้วเป็นส่วนใหญ่ก็ตาม
แต่ก็เชื่อว่ายังพอมีสื่อที่ทำหน้าที่ตามอุดมการณ์และเห็นแก่ประโยชน์ของ
ประเทศชาติมากกว่าอยู่บ้าง ท่านต้องใช้วิจารณญาณเอาเอง
...กระแส" การเมืองใหม่" ที่พันธมิตรจุดประกายและริเริ่มไปแล้ว
อาจเป็นความหวังอันยิ่งใหญ่เพียงจุดเล็กๆ
ที่คนไทยหัวใจรักชาติส่วนใหญ่อยากได้
แต่ก็ยังเป็นเสมือนปุยเมฆที่บางเบาที่หวังว่ามันจะก่อและขยายตัวเป็นเมฆฝน
แผ่ปกคลุมทั่วแผ่นดินและสร้างเม็ดฝนอันชุ่มฉ่ำให้ผืนแผ่นดินไทยในที่สุด
แต่ท่าม กลางมรสุมการเมืองที่ปั่นป่วนไร้ทิศทางเช่นนี้
มันอาจกลายเป็นพายุร้ายที่โหมกระหน่ำทำลายปุยเมฆให้แตกกระจายสลายตัวลง
และเกิดการทำลายล้างสร้างความเสียหายไปทั่วแผ่นดิน
เปิดทางให้การเมืองแบบเก่าๆกลับมาอีกได้
...ในที่สุด"พันธมิตร และ การเมืองใหม่"
ก็จะเป็นเพียงตำนานบทหนึ่งของการเมืองไทยเท่านั้น
วันที่ : 21 มิถุนายน 52 11:52
http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=298014&Mbrowse=9
คนหน้าไม้
ความคิดเห็นที่ 1
สาระ ของการจะทำอะไรมีสิ่งที่ปรากฎสองอย่างคือ 1.รูปแบบ(Stye)
และ2.เนื้อหา(Substance) รูปแบบเป็นสิ่งที่ปรากฎสัมผัสได้ เป็นวัตถุ
เป็นรูปธรรม ในระบบประชาธิปไตย ก็ได้แก่ตัวแทนประชาชน, การเลือกตั้ง,
สภา,เป็นต้น. แต่เนื้อหาที่แท้จริงจะต้องเกิดจาก ความรู้ ความคิด
จิตใจซึ่งอยู่ภายใน ระบบประชาธิปไตยก็ได้แก่การรับฝังความคิดเห็นประชาชน,
ผุ้แทนประชาชนที่เอาประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้งในการทำงานในสภา,
เมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้ง
ที่แตกต่างทางความคิดก็เอาเหตุผลมาแลกเปลี่ยนรับฝังกันด้วยความเคารพซึ่งกัน
และกัน, และยอมรับเสียงส่วนใหญ่ที่ตกลงกันด้วยเหตุผล ประโยชน์
และทิศทางที่เอาประชาชนที่เขาเป็นตัวแทนเป็นตัวตั้ง.....สังคมไทยพยายามที่
จะพัฒนาระบบประชาธิปไตย แต่เรามักลอกเลียน
ทำตามเขาได้แต่เพียงรูปแบบภายนอกที่ปรากฎแต่เนื้อหาภายในนักการเมืองของเรา
ช่างคต หักเห และคตโกงไม่ได้ความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงในส่วนของสาระและเนื้อหา....ขอ
ตอบโต้แม้แต่นักวิชาการ บางพวก บางคน ก็มีความเข้าใจสิ่งต่างๆ
ได้แบบหนังสือและรูปแบบ
แต่พวกเขาเข้าไม่ถึงและไม่เข้าใจสาระเนื้อหาที่เป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยเลย
แม้แต่น้อย ปัญหาบ้านเรา
เมืองเราจึงได้เป็นอย่างที่ปรากฎอยู่ในยุคนักประชาธิปไตยคิดเผาบ้าน
เผาเมือง หยาบช้า และหยาบคายอย่างที่สุด....การเมืองใหม่
พันธมิตรสร้างได้ถ้าเริ่มที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
และก้าวเดินไปบนเส้นทางของคำว่า "วัฒนธรรมประชาธิปไตย"
รื่องของการคิดผิดแท้ๆ
ไปตั้งพรรคการเมืองเล่นแบบ หนึ่งคนหนึ่งเสียงจะไปสู้อะไรกับพวก เหนือ
อีสานได้ ต่อให้มันไม่ใช้เงินด้วย
อย่าว่าแต่เหนือ อีสานเลย ชลบุรีถ้าคราวหน้าซุ้มมือปืนขยับอีกทาง ปชป
ก็ยังไม่ได้เลย อย่าว้าแต่กมม.
เป็นพันธมิตรมีมาครั้งละไม่กีพันยังสั่นสะเทือน ได้มาก
เสียแต่ว่าต้องขยันอย่าท้อถอย แค่นี้ก็ทำกันไม่ได้
คิดแล้วเสียดานมาดีๆ แล้วใครมันยุให้เลี้ยวผิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น