++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ผมเดินตามลูกมาเรียน มสธ./เรื่องเล่าจากนักศึกษา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



เรื่องเล่านักศึกษาฉบับนี้ มาจากศิษย์เก่ารุ่นใหญ่
จากภาควิชาคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) "คุณพลศรี
คชาชีวะ" ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันแม่บ้านทันสมัย
ที่ต้องการเล่าเรื่องราวชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
ที่กว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิตการเรียนและการทำงานได้เฉกเช่นวันนี้
เขาจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง

ทั้งนี้ เรามาลองฟังเรื่องราวของศิษย์เก่าจากรั้ว มสธ.คนนี้ กันเลยดีกว่า

.....ทำงานเพลิน ๆ หน่อยเดียว อ้าวนี่ผมได้รับปริญญาจาก มสธ.
มานานตั้ง ๑๖ ปีแล้วหรือนี่ทำไมเร็วเหมือนโกหกอย่างนี้ มสธ.
ก็มีอายุเข้าวัยเบญจเพส คือ ๒๕ ปี เข้าไปแล้ว

แต่ผมก็ยังไม่แก่ ยังทำงานด้วยใจสู้อยู่เหมือนเดิม
ยังสอนทำอาหารอยู่ที่สถาบันแม่บ้านทันสมัยเยื้องสถานีรถไฟสามเสน
ยังรับบรรยายตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ
ทั้งปลีกและส่งที่อบรบวิชามัคคุเทศก์เกี่ยวกับเรื่องอาหารไทยที่มัคคุเทศก์
ควรทราบ แล้วก็ยังรับเขียนเรื่องในหนังสื่อต่าง ๆ เท่าที่เขาเชิญมา เช่น
มติชน (เส้นทางเศรษฐี) อสท.ฯลฯ และก็ยังทำนิตยสารแม่บ้านทันสมัยอยู่
เหมือนเดิม ตอนหลังนี้เปลี่ยนแนวทางมาเป็นแนะสูตรอาหารเด็ด ๆ
ที่ตลาดกำลังต้องการทั้งเล่มเปลี่ยนหัวข้อไปแต่ละเล่ม
เช่นเล่มนี้ว่าด้วยอาหารข้าว เล่มนี้ว่าด้วยอาหารเส้นหรือก๋วยเตี๋ยว
หรืออาหารผัด อาหารต้มหม้ออร่อย ก็ว่ากันไป ก็ขายได้อยู่

ชีวิตนี้ของผมเป็นหนี้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชมากจริง ๆ ครับ
ผมจำได้ว่าได้ใช้วิชาคหกรรมศาสตร์ วิชาเอกโภชนาการชุมชน
ตั้งแต่ตอนผมกำลังเรียนอยู่
ผมได้ใช้ความรู้ที่ผมได้อ่านจากตำราของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชที่ทำ
ได้ดีมาก มาดัดแปลงออกอากาศ ตอนนั้นผมยังทำรายการวิทยุ
สบายโสตและแม่บ้านทันสมัย อยู่ทำให้การทำรายการของผมดูน่าเชื่อถือ
เป็นผู้ทรงภูมิ ทั้ง ๆ
ที่ตำรามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชช่วยผมเป็นส่วนมาก

ผมเก็บเกร็ดความรู้ที่ชาวบ้านพึงรู้จากตำรา มาออกอากาศบ้าง
มาเขียนหนังสือบ้าง มาบรรยายสอนหนังสือบ้าง ผมเลยรักตำราของ มสธ. มาก
เพราะผู้แต่งแต่ละท่านเขียนได้ดี เขียนได้ละเอียดมากจริงๆ

ทุกคืนก่อนนอนผมจะอ่านตำรา มสธ. ให้ได้หนึ่งบทถึงจะเข้านอน
ไม่ว่าจะเป็นเวลาตีหนึ่ง ตีสอง ผมก็ต้องอ่านให้ได้หนึ่งบทเสมอ
ขณะที่อ่านผมก็จะเอากระดาษมาโน้ตย่อข้อความไปด้วยกระดาษพวกนี้แหละที่ช่วย
ให้ผมสอบได้ เพราะก่อนสอบนอกจากจะพลิกตำราดูผ่าน ๆ อย่างรวดเร็วแล้ว
ผมก็จะดูจากโน้ตย่อที่ผมย่อไว้ด้วย
ตอนที่ผมเรียน มสธ. นั้น อายุก็ปาเข้าไป ๕๒ หรือ ๕๓
เข้าไปแล้วกระมัง คนหลายคนหัวร่อเมื่อทราบว่าผมหันไปเรียนหนังสือใหม่กับ
มสธ. เขาว่าผมหาเรื่องทำให้อายเด็ก
แต่ผมก็ไม่โต้ตอบอะไรก็ผมรักผมชอบวิชาคหกรรมศาสตร์
โดยเฉพาะสาขาโภชนาการชุมชนมาก ความจริงตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะเรียนหรอก
แต่ลูกสาวคนโตเขาจบปริญญาโทจากจุฬาฯ แล้ว แต่เขาก็อยากจะหาความรู้จาก
มสธ. วิธีการบริหารจัดการ เขาเห็นผมทางานทางด้านการกินตัวเป็นเกลียวอยู่
เขาก็ชวนผมไปเรียนด้วย

เขาซื้อใบสมัครมาฝากผมก็เลยตามเขาขอเรียนวิชาคหกรรม
หวังจะได้ปริญญาจาก มสธ. อีกสักใบ
เมื่อสมัครเรียนเสียสตางค์ไปแล้วก็ไม่อยากทิ้งขว้าง
ก็ต้องกัดฟันเรียนให้ได้
ถึงแม้บางวิชาจะหวานหมูแต่บางวิชาก็เป็นหมูป่าเคี้ยวยากชะมัด เช่น
วิชาเคมี โธ่เอ๋ยเกิดมาผมเคยเรียนเคมีกะเขาที่ไหน
ก่อนจะสอบจึงต้องกัดฟันท่องๆ และท่องสูตรเคมีท่องจนเก็บเอาไปฝัน.
แต่ก็เคราะห์ดีที่สอบหนเดียวก็ผ่าน

ผมชอบใจการเรียน มสธ. ก็ตอนที่ต้องไปกิน ไปนอน ไปนั่งเรียนกันสด ๆ
ในชุดวิชาประสบการณ์วิชาชีพตอนจวนจะจบหรือที่อาจารย์ท่านเรียกพวกเราว่า
"ว่าที่บัณฑิต" นั่นแหละ เราได้เจอเพื่อนที่รักวิชาเดียวกันเยอะแยะ
ได้รู้ว่าบางคนเป็น สจ๊วต การบินไทย บางคนเป็นครู บางคนจบ ปวส. มา
หน้าตายังเด็ก ๆ อยู่เลยมีแต่ผมคนเดียวกระมังที่หน้าแก่
เข้าวันแรกก็ต้องตื่นแต่ตีห้ากว่า ๆ เพื่อไปออกกำลังกายกัน
ผมเองไม่เคยตื่นเช้าขนาดนั้น
แต่ด้วยความเห่อก็ตื่นก่อนใครเขาเพื่อนแต่งตัวชุดวอร์มใส่รองเท้ายางคู่ใหม่
แต่เจ้ากรรมตอนเดินลงกระไดตึกที่พักรองเท้ามันเกิดสะดุดกันเองทำให้หกล้มหัว
เข่ากระแทกพื้น เข่าแตกเลือดไหลซิบๆ ผมยิ้มแหย ๆ ไม่เป็นไร ๆ
อดทนเดินร่วมออกกำลังกายกับเขา ไม่เจ็บ ไม่ปวด
แต่ตอนกลางคืนชักจะไม่ค่อยดี....

ตอนไปเขาอบรมเข้มเสริมประสบการณ์วิชาชีพคหกรรมศาสตร์นี่สนุกสุด ๆ
คือ ได้ละลายพฤตกรรม ใครจะเป็นใครมาจากไหนไม่รู้ ในนาทีนั้น คือ ลูก มสธ.
เขียวทอง เสียงเพลงมหาวิทยาลัยที่ดังกระหึ่มทำให้เราครึ้มใจ
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็ก ๆ กะเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้น
ไม่ว่าเขาจะให้อยู่กลุ่มสมมุติว่าเป็นลิง เป็นเสือ
เป็นช้างอะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น ก็เราทุกคนเสมอๆ กันแล้วนี่

เขาให้ผมเป็นประธานจัดงานเลี้ยงฉลองในรุ่นด้วยนะ
อาจจะเป็นเพราะเขาเห็นผมแก่งั่กก็เป็นได้
แต่ก็ไม่มีหน้าที่อะไรสำคัญหรอกแค่กล่าวรายงาน กล่าวเชิญอาจารย์
เปิดการแสดงของนักศึกษาก็หมดหน้าที่

ผมได้มีโอกาสรับใช้ มสธ. อีกในตอนหลัง คือ รองศาสตราจารย์
ดร.ทัศนีย์ ลิ้มสุวรรณ คงเห็นว่า ผมซี้กับร้านอาหาร ภัตตาคาร
และโรงแรมมากกระมัง
เลยชักชวนให้ผมเป็นกรรมการร่วมในคณะทำเอกสารการสอนเกี่ยวกับการจัดการและ
เทคนิคการบริการในภัตตาคารด้วย
ต้องขอบคุณท่านอาจารย์เป้นอย่างสูงที่ให้เกียรติผม
แถมทางหน่วยงานโสตทัศน์ศึกษาของ มสธ.
ยังเอาผมไปเป็นวิทยากรบรรยายเกี่ยวกับภัตตาคาร โรงแรมอีกหลายเทป
โดยไปบันทึกเทปกันทั้งทีโรงแรมเอเชียพัทยา
และที่กรุงเทพมหานครในงานมหกรรมอาหารที่ผมเห็นผู้จัด
นับว่าอาจารย์หลายท่านของ มสธ. ได้ให้เกียรติผมเป็นอย่างสูง
ทำให้ผมได้มีโอกาสทดแทนพระคุณให้มหาวิทยาลัยที่รัก

ผมเที่ยวชักชวนให้ใครต่อใครเรียน มสธ. กัน
อย่างน้อยในสถาบันแม่บ้านทันสมัยก็มีคนจบ มสธ. วิชาคหกรรมศาสตร์ถึงสามคน
คือ ผม กับอาจารย์ที่สอนอาหารซึ่งจบ ปวส. ด้านอาหารมาก่อนแล้วมาต่อ มสธ.
ส่วนอีกคนคือลูกชายผมที่เรียนจบนางนิเทศศาสตร์เหมือนผม
และเป็นบรรณาธิการบริหารได้นิตยสารแม่บ้านทันสมัย
ผมก็ยุให้เรียนคหกรรมศาสตร์ มสธ. อีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำงานทางด้านนี้อย่างยิ่ง เขาก็เชื่อผม
หน้าตาคร่ำ เครียดเอาการเหมือนกันว่าจะเรียนจบ

จุดเด่นของการเรียน มสธ. ก็คือ ตำราครับ ตำราของ มสธ.
ละเอียดดีมากสมกับที่เป็นตำราการเรียนการสอนทางไกลแต่น่าจะมีการปรับปรุงให้
ทันสมัยเป็นระยะ ๆ อยู่เสมอเพราะวิชาการสมัยนี้ก้าวหน้าเร็วมาก
ไม่ได้อ่านไม่ได้ค้นหน่อยเดียว อ้าว..ความรู้ที่เราเคยรู้ว่าแน่ ๆ
กลายเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว

อีกอย่างหนึ่งที่ผมอยากให้ มสธ. ทำก่อนที่นักศึกษาจะเรียนจบคือ
ให้ได้สัมผัสกับอาชีพที่ตนเรียนนั้นจริง ๆ
สักพักหนึ่งโดยทางมหาลัยจัดหรือมอบให้ทางนักสึกษาไปสมัครฝึกหัดด้วยตนเองกับ
อาชีพนั้น ๆ กับหน่วยงานเอกชนหรือราชการักระยะหนึ่ง
ตามที่จะเผชิญกับงานอาชีพของตนอย่างรู้จริงทั้งทางภาคทฤษฎีและปฎิบัติ

มสธ. ของเรา
จะต้องเป็นมหาวิทยาลัยเปิดที่มีเชื่อเสียงโงดังต่อไปในและนอกประเทศ
จากปีที่ ๒๕ ในปีนี้จะต้องก้าวต่อไปอีกไม่รู้จบ พวกเราลูกศิษย์เล็ก ๆ
กลุ่มหนึ่งจะช่วยกันส่งพลังใจ พลังความคิด
และหลังปฏิบัติอย่างเต็มที่....

** ขอบคุณเรื่องราวและภาพประกอบจาก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000067950

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น