++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ม.อ.ต่อยอดจดอนุสิทธิบัตรสิ่งประดิษฐ์ช่วยผู้ป่วย ‘ลูคิเมีย’

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    


ม.อ.จดอนุสิทธิบัตรเครื่องประดิษฐ์ “อุปกรณ์สลับสัญญาณสี่เฟสสำหรับขั้วไฟฟ้าอินเทอร์ดิจิเทต” กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ หวังต่อยอดพัฒนาใช้ในวงการแพทย์ สู่ระบบการคัดกรองสารแขวนลอยระดับไมครอน ช่วยในการวินิจฉัยความผิดปกติของเซลล์ในเม็ดเลือด โดยเฉพาะกับผู้ป่วย “ลูคิเมีย” ที่สามารถระบุ type ของเซลล์เม็ดเลือดได้ชัดเจนด้วยเวลาสั้นขึ้น ทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างตรงจุด
      
       ผศ.ดร.ศักย์ชิน บุญถวิล อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) วิทยาเขตภูเก็ต เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะผู้ประดิษฐ์เครื่องอุปกรณ์สลับสัญญาณสี่เฟสสำหรับขั้วไฟฟ้าอิน เทอร์ดิจิเทต (Adjustable Phase shift Unit for Interdigitated Electrode) ของมหาวิทยาลัยได้ยื่นขอจดอนุสิทธิบัตรจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ปรากฏว่า ขณะนี้อุปกรณ์ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย อุปกรณ์สลับสัญญาณสี่เฟสแบบปรับค่าได้ และขั้วไฟฟ้าแบบอินเทอร์ดิจิเทตขนาดไมครอน ได้รับการอนุมัติจดอนุสิทธิบัตรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      
       สำหรับสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าว มีจุดเริ่มต้นจากงานวิจัยเพื่อวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของผู้ประดิษฐ์ และได้พัฒนาต่อยอดในภายหลัง โดยตัวอุปกรณ์จะทำหน้าที่สลับสัญญาณไฟฟ้ากระแสสลับและควบคุมจังหวะการ เปลี่ยนเฟสสัญญาณที่มีสี่เฟส เพื่อกำหนดการทำงานของขั้วไฟฟ้าอินเทอร์ดิจิเทตขนาดไมครอนให้กำเนิดสนาม ไฟฟ้าแบบคลื่นเดินทางที่มีความเข้มและทิศ ทางตามที่ต้องการ
      
       โดยการทำงานในลักษณะดังกล่าว จะเหนี่ยวนำให้เซลล์แขวนลอยชีวภาพที่มีสมบัติไฟฟ้าต่างกันเกิดปรากฎการณ์ได อิเล็กโทรฟอเรซิสและไดอิเล็กโทรฟอเรซิสแบบคลื่นเดิน ทางได้ในคราวเดียวกัน ทำให้เซลล์เกาะขั้วไฟฟ้าและผลักออกเมื่อความถี่และเฟสสัญญาณไฟฟ้าเปลี่ยนไป
      
       จากเทคนิคดังกล่าว ทำให้ทราบค่าความแตกต่างของสมบัติไฟฟ้าระหว่างเซลล์ปกติและเซลล์ที่ปนเปื้อน สารพิษโลหะหนัก อาทิ สารหนู และยาฆ่าแมลง สามารถคัดแยกเซลล์แขวนลอยที่ปนเปื้อนได้ในระดับหนึ่ง รวมถึงใช้วินิจฉัยความผิดปกติของเซลล์ชีวภาพอื่นได้ โดยอาศัยความแตกต่างของสมบัติไฟฟ้าของเซลล์ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะในระดับ โมเลกุล
      
       “ด้วย รูปแบบการทำงานของอุปกรณ์สลับสัญญาณสี่เฟสสำหรับขั้วไฟฟ้าอินเทอร์ดิจิเทต เราจึงได้ทำการวิจัยนำร่องเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมอีกบางส่วนภายหลังจากที่ ได้พัฒนาอุปกรณ์ดังกล่าว เพื่อต่อยอดสำหรับงานคัดแยกขนาดของไข่สัตว์น้ำและประเมินสุขภาพของไข่ปลา ศึกษาความเป็นไปได้กับงานแปลงเพศไข่ปลาบางชนิด โดยการกระตุ้นด้วยสนามไฟฟ้าแบบคลื่นเดินทาง รวมถึงประยุกต์ใช้ในงานวิจัยด้านโลหิตวิทยา เพื่อวินิจฉัยความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด และระบุจำแนก type ของผู้ป่วยที่เป็นลูคีเมีย ซึ่งเท่าที่ทราบในขณะนี้ ชนิดของลูคีเมียมีอยู่หลายชนิดแบ่งแยกลงไปได้อีก และถือเป็นประเด็นเปิดที่รอการพิสูจน์ผ่านงานวิจัยในทางโลหิตวิทยา ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการตรวจหา type ของเซลล์เม็ดเลือดของผู้ป่วยได้ภายในระยะเวลาอันสั้นและรวดเร็วขึ้น” ผศ.ดร.ศักย์ชิน กล่าว
      
       ทั้งนี้ รูปแบบการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยลูคีเมียโดยปกตินั้น เป็นงานที่สามารถกระทำได้ในระดับห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาลโดยทั่วไป โดยการมองผ่านกล้องจุลทรรศน์ ดูความผิดปกติทางกายภาพของเม็ดเลือดขาว จากนั้นจะนำไปตรวจสอบด้วยเทคนิคทางเคมีเฉพาะทางและวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้ชำนาญ การ เพื่อบ่งชี้ว่าผู้ป่วยมีโอกาสเป็นลูคีเมียหรือไม่
      
       อย่างไรก็ดี การจำแนกและระบุ type ของลูคีเมีย ซึ่งมีอยู่หลายสิบแบบนั้น ไม่สามารถกระทำได้โดยง่าย เพราะลักษณะทางกายภาพของเซลล์แต่ละ type นั้นคล้ายคลึงกันจนแยกไม่ออก ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการตรวจสอบเฉพาะทางในเชิงลึกที่ต้องอาศัยเวลาในการวินิจ ฉัย ซึ่งถือเป็นประเด็นเปิดที่ควรศึกษาวิจัยเพราะจะได้ระบุ type ของลูคีเมียได้เพื่อการรักษาทางการแพทย์ที่ตรงจุด
      
       ดังนั้นการนำเครื่องมืออุปกรณ์สลับสัญญาณสี่เฟสสำหรับขั้วไฟฟ้าอิน เทอร์ดิจิเทตมาประยุกต์ใช้กับประเด็นดังกล่าวโดยอาศัยผลการประเมินสมบัติ ไฟฟ้าของเซลล์ในเบื้องต้น จะช่วยย่นระยะเวลาการวินิจฉัยไปได้มากพอสมควร กอปรกับเป็นข้อมูลเสริมเพื่อประกอบเป็นแนวทางการวินิจฉัยของแพทย์ต่อผู้ป่วยได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
      
       อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ม.อ. วิทยาเขตภูเก็ต กล่าวด้วยว่า ขณะ นี้คณะผู้วิจัยกำลังเร่งจัดทำธนาคารข้อมูล (data bank) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการวินิจฉัย โดยอิงจากพฤติกรรมการเคลื่อนที่ อัตราเร็ว ทิศทาง ความถี่และความต่างเฟสของสัญญาณไฟฟ้ากับเซลล์เม็ดเลือด ที่สะท้อนให้เห็นถึงความผิดปกติของเซลล์ลูคีเมียแต่ละ type รวมถึงของเลือดแต่ละกรุ๊ป โดยหากโครงการดำเนินแล้วเสร็จ จะนำชุดอุปกรณ์ตรวจสอบต้นแบบไปมอบให้กับทางโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อใช้ในการวินิจฉัยความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดของผู้ป่วยในแต่ละรายต่อ ไป

http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9520000046028

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น