++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบทชวนเพื่อนทำงานเพื่อสังคม

เอเอส ทีวีผู้จัดการรายวัน -มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ยุคใหม่
เปิดโอกาสให้ทุกองค์กรที่สนใจ
เข้ามามีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมร่วมกัน

นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้จัดการมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท
เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในทศวรรษที่ 3
ของมูลนิธิฯว่า จะเปิดโอกาสให้องค์กรภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานต่างๆ
ร่วมดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการยกระดับคุณภาพ
ชีวิตเกษตรกรในทุกๆด้านมากยิ่งขึ้น
หลังจากที่ผ่านมามูลนิธิฯมีบทบาทของผู้ปฏิบัติและผู้ประสานงานมาตลอด
จนกระทั่งปัจจุบันพบว่า
มีหลายองค์กรสนใจอยากมีส่วนเข้าร่วมดำเนินโครงการเพื่อสังคมของมูลนิธิฯและ
แจ้งความจำนงเข้ามา

"กว่า 20 ปีที่ผ่านมา
มูลนิธิฯได้ดำเนินโครงการเพื่อลดจุดด้อยและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรมา
โดยตลอด ก่อเกิดเป็นประสบการณ์ความรู้
เป็นโมเดลหรือรูปแบบการทำงานร่วมกับเกษตรกร
เข้าใจธรรมชาติของเขาและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรได้อย่างเป็น
รูปธรรม ปัจจุบันพบว่ามีหลายหน่วยงานที่มองเห็นและแสดงความจำนงต้องการเข้าร่วมมือ
กับทางมูลนิธิฯ เพื่อช่วยกันสร้างสรรค์สังคม
หน่วยงานแต่ละแห่งต่างมีจุดเด่นและข้อจำกัดกันคนละอย่าง
แต่เมื่อมารวมกันแล้ว
กลับทำให้เกิดพลังความร่วมมือและสร้างสรรค์สังคมได้มากยิ่งขึ้น"
นายสุปรีกล่าว

ดังนั้น นับแต่นี้ไปมูลนิธิฯ จะเน้นการพัฒนาเครือข่าย
(Networking) ซึ่งเปรียบการทำงานของมูลนิธิฯเป็นเจ้าภาพจัดการโครงการ
หรือ Organizer โดยนำรูปแบบโครงการที่สำเร็จแล้วไปขยายผล เช่น
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน
ที่ต้องถ่ายทอดความรู้และการจัดการอย่างเป็นระบบ

ที่ผ่านมามูลนิธิฯอาจใช้เวลาถึง 20 ปี ในการดำเนินโครงการให้ได้
278 โรงเรียน แต่ในปี 2552 มูลนิธิฯอาจสามารถดำเนินโครงการได้ราว 80-100
แห่งภายในปีเดียว เนื่องจากได้รับความสนใจจากโรงเรียนต่างๆ
ขอเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ก็มีหน่วยงานเอกชนหลายแห่ง
ตลอดจน NGO ต่างๆที่มีงบประมาณสนับสนุนแต่ขาดแคลนบุคลากรผู้ลงมือทำ
ก็ได้แสดงความต้องการเข้าร่วมโครงการด้วย

กรณีเช่นนี้ มูลนิธิฯ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด
(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ซึ่งเป็นเรี่ยวแรงสำคัญในการดำเนินโครงการฯ
จะร่วมกันพิจารณาความเป็นไปได้ในการดำเนินโครงการฯ ของแต่ละโรงเรียน
และเชิญชวนมาเป็นเจ้าภาพร่วมในการดำเนินการ เป็นต้น

นอกจากนี้
มูลนิธิฯยังเน้นการดำเนินโครงการตามพระราชดำริในโครงการอื่นๆด้วย ได้แก่
โครงการหมู่บ้านสหกรณ์ 14 สหกรณ์ ในพื้นที่ 8 จังหวัด
โครงการศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตรห้วยทราย
โครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ โครงการพัฒนาอาชีพพื้นที่ตำบลปากรอ
อ.สิงหนคร จ.สงขลา และโครงการครอบครัวอุปการะ ทั้งนี้
ก็เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการพัฒนางานเกษตรกรรมอย่างรอบด้าน

"หน่วยงาน หรือองค์กรใดที่ต้องการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
หรือประสงค์จะร่วมกับมูลนิธิฯเพื่อพัฒนาสังคมในโครงการต่างๆ
ที่มูลนิธิฯดำเนินการอยู่ สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ 0-2625-7342"
นายสุปรีกล่าวทิ้งท้าย

อนึ่ง มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2530
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ในอันที่จะดำเนินกิจกรรมที่เป็น
ประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบท
ให้สอดคล้องกับแนวพระราชดำริและพระราชกรณียกิจในงานพัฒนาสังคมของพระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น