++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ใครส่งเสริมคนไม่ดีให้มีอำนาจในบ้านเมือง?

ใครส่งเสริมคนไม่ดีให้มีอำนาจในบ้านเมือง?
โดย สิริอัญญา \


สถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่เป็นปกติสุขในทุกวันนี้
มีส่วนน้อยเกิดแต่ธรรมชาติหรือดินฟ้าอากาศ มีส่วนหนึ่งเกี่ยวกับโรคาพยาธิ
ซึ่งบางเรื่องก็เกิดขึ้นจากน้ำมือคน บางเรื่องก็เกิดขึ้นแต่ธรรมชาติ
แต่ส่วนใหญ่แล้วล้วนเกิดจาก "คน"

นั่นคือคนเป็นผู้ทำให้เกิดสภาพไม่ปกติสุขในบ้านเมืองของเรา
และทำให้สถานการณ์หนักหนาสาหัสต่อเนื่องมาถึง 7 ปีแล้ว
แม้ถึงวันนี้ก็ยังมีการเพิ่มความไม่เป็นปกติสุขนั้นให้รุนแรงมากขึ้นอย่าง
ไม่หยุดยั้งต่อไป

หาก สถานการณ์เป็นไปในทิศทางนี้ อีกไม่นานเท่าใดดอก
คนไทยเราคงสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินเป็นแน่แท้
ซึ่งย่อมเป็นเรื่องที่ไม่มีใครไหนต้องการให้เป็นไปเช่นนั้น
ดังนี้แล้วจึงต้องคิดอ่านป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดสภาพการณ์เช่นนั้น
และต้องทำการเสียให้ทันท่วงที ก่อนที่จะสายเกินการ

การใช้อำนาจไม่เป็นธรรม ข่มเหงยำเยงข้าราชการด้วยกัน
ไม่ว่าข้าราชการฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายประจำ
หรือไม่ว่ากระทำต่ออาณาประชาราษฎร ล้วนเกิดขึ้นจากผู้มีอำนาจในบ้านเมือง
ที่ได้รับการส่งเสริมให้มีอำนาจเช่นว่านั้น

การฉ้อฉลปล้นชาติปล้นแผ่นดิน
ฉ้อราษฎร์บังหลวงทั้งปวงบรรดามีที่เกิดขึ้นจนประเทศชาติเสียหายยับเยิน
ป่นปี้ จนอาณาประชาราษฎร์เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
ล้วนเกิดขึ้นจากผู้มีอำนาจในบ้านเมืองที่ได้รับการส่งเสริมให้มีอำนาจเช่น
ว่านั้น

ความขาดไร้ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ทั้งด้านศาสนจักรและอาณาจักร
ล้วนมีต้นตอที่มาจากคน ซึ่งได้รับการส่งเสริมให้มีอำนาจในบ้านเมือง
ทั้งในทางศาสนจักรและอาณาจักรเช่นเดียวกัน

สถานการณ์ที่ประเทศต้องย่อยยับ อับจน ล้าหลัง
ไร้ศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ และอยู่ในภาวะถดถอย ก็ล้วนเกิดจากคน
ซึ่งได้รับการส่งเสริมให้มีอำนาจในบ้านเมือง

ดังนั้นการจะแก้ไขสถานการณ์ให้กลับฟื้นคืนปกติสุขในทุกๆ ด้าน
จึงต้องมุ่งไปที่คน หากไปมัวสาละวนอยู่ที่เรื่องอื่นใดย่อมไร้ผล
เพราะคนคือสมุทัยอริยสัจของปัญหาชาติบ้านเมือง
ซึ่งเป็นต้นเหตุของทุกข์อริยสัจดังที่พรรณนามาข้างต้นนั้น

ใน เรื่องนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระบรมราโชวาทไว้ช้านาน
แล้ว มีใจความว่าบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนไม่ดี
ไม่สามารถที่จะกำจัดคนไม่ดีให้หมดไปจากบ้านเมืองได้
การจะทำให้บ้านเมืองเป็นปกติสุขและเจริญรุ่งเรือง
จึงอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจในบ้านเมือง
และกำจัดขัดขวางคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจในบ้านเมือง

จำได้ว่านอกจากพระบรมราโชวาทดังกล่าวนี้แล้ว
ยังทรงพระราชทานกระแสพระราชดำรัสที่เกี่ยวเนื่องกันกับพระบรมราโชวาทนี้อีก
หลายครั้ง ซึ่งมีลักษณะเป็นคำอธิบายให้คนทั้งหลายได้เข้าใจในเรื่องนี้ได้โดยง่าย

เช่นที่เคยตรัสไว้ว่า หินซึ่งใช้จัดสวนนั้น มีทั้งก้อนเหลี่ยม
ก้อนรี ก้อนกลม มีทั้งสีดำ สีขาว สีเทา สีแดง สีหม่น
ซึ่งจะจัดสวนได้สวยงามหรือไม่สวยงามไม่ได้ขึ้นอยู่กับหินหรือความผิดของหิน
แต่อยู่ที่คนจัดสวนต่างหากว่ารู้จักจัดวางให้เหมาะสม สมดุล
สวยงามหรือไม่ประการใด

ความจริงรายละเอียดเนื้อความที่ทรงตรัสนี้มีความครบถ้วนสมบูรณ์
มีความไพเราะ มีความงดงาม แต่ในเวลาอันจำกัดนี้ยังค้นหาไม่ทัน
จึงจำแต่นำเนื้อความเท่าที่จำได้มาพรรณนาพอให้เห็นเป็นแนวทาง

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแสดงว่าถ้ามีการส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจในบ้านเมือง
เสียอย่างหนึ่งแล้ว ก็นับว่าได้สร้างเหตุปัจจัยที่ดีที่งาม
ที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นเบื้องหน้า
และเป็นผลที่จะต้องเกิดขึ้นตามธรรมดาธรรมชาติ

ใน ทางตรงกันข้าม
หากส่งเสริมหรือปล่อยให้คนไม่ดีมีอำนาจในบ้านเมืองก็เท่ากับสร้างเหตุสร้าง
ปัจจัยของความพินาศฉิบหาย ความอัปมงคล ความอัปยศ และวิบัติต่างๆ
แก่บ้านเมือง แม้สรรพทุกข์ สรรพโรค สรรพภัย
ก็จะเบียดเบียนทั้งประเทศชาติและประชาชน
ดังที่คนไทยเรากำลังประสบและตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันเช่นวันนี้

เริ่มมาตั้งแต่รัฐบาล เอาล่ะเฉพาะตัวนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรีนั้น
ก็ต้องยอมรับนับถือกันว่าเป็นคนดีมีฝีมือคนหนึ่งของบ้านเมือง
ได้รับความไว้วางใจจากมหาชน
ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยและพระราชทานกระแสพระราชดำรัสให้ถือเป็นธงชัยใน
การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งคนทั้งหลายก็คาดหวังว่านายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ จะไม่ทำให้ผิดหวังทั้งฟ้าและดิน

ถัดลงมาจากตัวนายกรัฐมนตรีก็คือรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี
และรัฐมนตรีช่วยทั้งหลาย ตลอดจนข้าราชการประจำระดับปลัดกระทรวง อธิบดี
ตลอดจนบอร์ดและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ
ก็ล้วนได้รับแต่งตั้งมอบหมายจากรัฐบาลทั้งสิ้น
ล้วนต้องได้รับความเห็นชอบในการแต่งตั้งจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้ง
สิ้น

ลำดับลงมาอีกก็คือบรรดาที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรี ตลอดจนเลขาธิการ
รองเลขาธิการ ทั้งของนายกรัฐมนตรี ทั้งของรองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีต่างๆ

ถ้า หากคนทั้งหลายเหล่านี้เป็นคนดี
และคนดีได้รับการส่งเสริมสนับสนุนให้มีอำนาจตามทำเนียบตำแหน่งต่างๆ
ดังกล่าวมาแล้ว ก็ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดความดีความงาม
ความเจริญรุ่งเรือง และความร่มเย็นเป็นสุขในบ้านเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่วันนี้เป็นอย่างไรเล่า?

ข่าวคราวที่ปรากฏในแต่ละวันดาษดื่นเต็มไปด้วยเรื่องโกงบ้านโกงเมือง
เต็มไปด้วยเรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง เต็มไปด้วยการเล่นพรรคเล่นพวก
เต็มไปด้วยการใช้อำนาจไม่เป็นธรรม
เอาเปรียบข่มเหงข้าราชการและพนักงานของรัฐ ตลอดจนอาณาประชาราษฎร
จนปั่นป่วนวุ่นวายสับสนกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง

เรื่องราวข่มเหงน้ำใจประชาชนที่หน้าด้านหน้าทน พูดผิดเป็นถูก
พูดถูกเป็นผิด พูดดำเป็นขาว พูดขาวเป็นดำ บ่ายเบี่ยงเลี่ยงประเด็น
ปกปิดความผิดชั่ว กระทั่งใส่ร้ายป้ายสีผู้คน
กระทั่งทำผิดคิดชั่วแล้วไม่รู้จักละอายใจในบาปบุญคุณโทษ ไม่กลัวกฎหมาย
ไม่กลัวบาป ไม่กลัวกรรม เชิดหน้าชูตาลอยนวล ท้าทายความรู้สึกมหาชน
ก็เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางไม่เว้นในแต่ละวัน

ทำ ให้ผู้คนไม่เป็นสุข มีแต่ความเครียดกังวล
จนต้องตื่นตัวตื่นรู้และจับกลุ่มกันเป็นกลุ่มเป็นขบวนการ
เพื่อพิทักษ์รักษาบ้านเมืองไว้ไม่ให้พวกโจรชั่ว ไม่ให้พวกโจรปล้นชาติ
ไม่ให้พวกอุบาทว์ปล้นบ้านปล้นเมือง ดังที่รู้ๆ เห็นๆ กันอยู่

ทำให้สภาพบ้านเมืองกลายเป็นเรื่องภาระอันหนักของประชาชนที่ต้องตั้ง
หน้าตั้งตาจับโจรที่ปล้นบ้านปล้นเมือง ทำผิดคิดร้ายต่อบ้านเมือง
เหยียบย่ำทำลายขื่อแปของบ้านเมืองจนกระทั่งไม่เป็นอันทำมาหากินกัน

เป็นภาระขององค์กรตรวจสอบต่างๆ ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้น
เพื่อให้ป้องกันแก้ไขความผิดคิดชั่วทั้งหลายที่จะต้องทำงานอย่างหนักหนา
สาหัส ต้องทนกับแรงกดดันสารพัด แม้กระทั่งต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย

ยกเว้นก็แต่บางคนที่ประพฤติตนเป็นคนชั่วคนบาปเสียเอง
ทรยศต่ออำนาจหน้าที่ของตน
ไปเสพเสวนาหาอามิสและกามจากคนชั่วจนกลายเป็นคนชั่วตามไปด้วย

ถ้า หากกระบวนการกำจัดขัดขวางไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจในบ้านเมืองมีพลังมาก
มีขีดความสามารถสูง
มีสมรรถนะและประสิทธิภาพที่จะกำจัดขัดขวางคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจในบ้านเมือง
ได้ทันเวลา และทันต่อสถานการณ์
เหตุการณ์ที่ไม่เป็นปกติสุขนี้ก็คงจะคลี่คลายไป

แต่ในวันนี้กระบวนการกำจัดขัดขวางคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจมีพลังไม่
เพียงพอ ไม่สามารถกำจัดขัดขวางคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจในบ้านเมืองได้ทันท่วงทีและทัน
กับสถานการณ์

ดังนั้นคนไม่ดีจึงเข้ามามีอำนาจในบ้านเมืองเพิ่มขึ้นๆ
และเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง
จนกลายเป็นกระแสหลักในการบริหารจัดการและการใช้อำนาจในบ้านเมือง
แล้วทำให้บ้านเมืองของเรากำลังก้าวไปสู่ทิศทางสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน
เกิดทุกข์เข็ญและเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าดังที่เป็นอยู่

เมื่อเป็นดั่งนี้ก็ต้องเพ่งเล็งเอาที่ต้นตอแห่งอำนาจ
คือนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี หรือรัฐบาล
แล้วช่วยกันคิดอ่านว่าจะทำกันอย่างไร
จึงจะทำให้ศูนย์กลางแห่งอำนาจนี้ประกอบด้วยคนดีและกำจัดคนไม่ดีไม่ให้มี
อำนาจ

เพราะ เมื่อศูนย์กลางแห่งอำนาจประกอบด้วยคนดีแล้ว
ก็ย่อมให้ผลิตผลคือการส่งเสริมให้คนดีในระดับถัดๆ
ไปได้มีอำนาจในหน่วยงานและองค์กรระดับถัดๆ ไปในบ้านเมืองด้วย

คนดีที่พรรณนามานี้ย่อมหมายถึงคนดีมีฝีมือด้วย
เพราะหากเป็นคนดีแต่ไร้ฝีมือ
ก็ไม่ต่างอันใดกับสากกะเบืออันหนึ่งซึ่งไม่คดโกงใคร ไม่ฉ้อฉล
ไม่ข่มเหงใคร แต่ใช้ได้ก็แต่การตำน้ำพริก
หรือใช้ด่าแม่นักการเมืองเท่านั้น

ดัง นั้นการส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจในบ้านเมืองจึงต้องเป็นการส่งเสริมให้คนดีมี
ฝีมือมีอำนาจในบ้านเมือง
และนี่คือภารกิจสำคัญของรัฐบาลในสถานการณ์ปัจจุบัน
พร้อมทั้งกำจัดคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจในบ้านเมืองด้วย .

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000069915

---------------------------------
เปิดโลกกับประชุม สุริยามาศ
..พบกับข้อมูลความจริง ในเรื่องของแหล่งน้ำในภาคอีสาน ที่หาอ่านได้ยาก
กับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในชนบท
และแนวคิดการบริหารจัดการแหล่งน้ำที่น่าสนใจ
แต่ถูกมองข้ามจากผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง

พบกับความจริงของสังคมไทยได้ที่
http://msuriyamas.blogspot.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น