++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แท้จริง...พรรคพันธมิตรฯ ยิ่งใหญ่กว่าพรรคใดๆ อยู่แล้ว

โดย ดร.ป. เพชรอริยะ 1 มิถุนายน 2552 14:40 น.
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวการตั้งพรรคพันธมิตรฯ
ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยว่าถึงเวลาอันสมควรแล้วที่กลุ่มพันธมิตรฯ
จะยกระดับการต่อสู้โดยมีพรรคฯ เป็นเครื่องมือในการต่อสู้
และฝ่ายที่ยังไม่เห็นด้วย เกรงว่าเมื่อพันธมิตรฯ
กลายเป็นพรรคการเมืองแล้วจะสูญเสียการนำมวลชนไป

ผู้เขียนมองว่าพรรคการเมืองย่อมเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
พรรคจะเข้มแข็งหรืออ่อนล้าก็ขึ้นอยู่กับคณะการนำ
โดยการประยุกต์ศาสตร์ต่างๆ เช่น สัจธรรม ทฤษฎีปรัชญา ทฤษฎีการเมือง
ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ ความเชื่อ และลักษณะพิเศษตามเงื่อนในสภาพการณ์นั้นๆ
โดยมีความมุ่งหมายในการมีอำนาจการปกครองในยุคนั้นๆ
ในอดีตหัวหน้าเผ่าย่อมเป็นหัวหน้าพรรคโดยธรรมชาติ

ยุคเจ้าครองนคร (Feudal State) กษัตริย์ จักรพรรดิ
ถือได้ว่าเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีทั้งเข้มแข็งและอ่อนแอ เช่น
พรรคสมเด็จพระนเรศวรฯ หลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก
และหลังเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 มีหลายพรรคหวังจะขึ้นมามีอำนาจ
ปรากฏว่าพรรคสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เข้มแข็งที่สุด
ปราบดาภิเษกขึ้นสู่อำนาจ ตอนหลังพรรคอ่อนแอถูกพรรคพระพุทธยอดฟ้าฯ
ยึดอำนาจ หัวหน้าพรรคที่อ่อนแอ เช่น พรรคพระเจ้าเอกทัศน์ เป็นต้น

ยุคสมัยใหม่ เป็นยุครัฐชาติ (Nation State)
พรรคการเมืองโดยธรรมชาติโดยไม่ต้องไปจดทะเบียนกับหน่วยงานใดๆ ของรัฐ เช่น
จอร์จ วอชิตัน (George Washington) ผู้นำการปฏิวัติอเมริกา ในนามพรรค
Federalist เป็นประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา และสมัยที่สอง

มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi)
เป็นผู้นำการปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชาติ จากอังกฤษ และพรรคคองเกรส
ของอินเดีย ก็ไม่ได้จดทะเบียนกับหน่วยงานใดของรัฐ

เหมา เจ๋อตุง ผู้นำการปฏิวัติ
เป็นประธานคณะโปริตบูโรของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ก็ไม่ได้ไปจดทะเบียนกับหน่วยงานใดของรัฐ

ประธานาธิบดี โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh)
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม
ก็ไม่ได้จดทะเบียนกับหน่วยงานใดของรัฐแต่ประการใด
ถ้าพรรคเหล่านี้จดทะเบียนพรรค
ก็ไม่สามารถที่จะนำการเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ตามเงื่อนไขและลักษณะพิเศษของ
ประเทศนั้นๆ อย่างยิ่งใหญ่ได้

พรรคการเมืองย่อมเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
พรรคย่อมเกิดขึ้นเพื่อรวบรวมสรรพกำลังของมวลชนคนรักชาติ เช่น การเสียสละ
อุทิศตน ทั้งปัญญา กำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์
โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะสร้างสรรค์ชาติของตนให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง
เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ขจัดทุกข์ บำรุงสุขปวงชนในชาติ

ย้อนกลับ มาดูพรรคพันธมิตรฯ
ผู้เขียนเห็นว่าเป็นพรรคที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ
และมีศักยภาพเหนือกว่าพรรคการเมืองใดๆ
ที่มีอยู่ในปัจจุบันที่ไปจดทะเบียนกับ กกต. ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ
ที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ การตั้งพรรคโดยการจดทะเบียนพรรคกับหน่วยงานรัฐ
ก็เท่ากับว่าหมดสภาพของการเป็นพรรคของประชาชนลงในทันที
กลายเป็นพรรคเผด็จของนายทุนพรรค ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.
พรรคการเมือง พรรคที่ถูกต้องจะเติบโต หรือสูญสิ้นสลายเป็นไปโดยธรรมชาติ

อย่าลืมว่าพรรคที่แท้จริงเกิดจากจิตสำนึกของประชาชน
ที่ต้องการจะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติและต้องการปกครองตนเอง
และประชาชนเป็นเจ้าของพรรค ถ้าพรรคเกิดจากกฎหมาย
มีกฎหมายชี้นำให้ทำอย่างนี้ ไม่ให้ทำอย่างนั้น
มันก็เท่ากับว่าเป็นการควบคุมประชาชน พรรคการเมืองที่เกิดจากกฎหมาย
ย่อมเป็นพรรคที่เกิดจากระบอบเผด็จการรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
ถึงจะโฆษณาชวนเชื่อซ้ำๆ อย่างไรว่า "เป็นประชาธิปไตยๆๆๆๆ"

แต่ในความเป็นจริงมันไม่เป็น ความจริงมันเป็นระบอบเผด็จการ
เมื่อมันไม่เป็นมันก็สำแดงออกมาให้เห็นถึงความขัดแย้งทางการเมืองของชนใน
ชาติ มันสำแดงให้เห็นว่ารัฐธรรมนูญเป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งยาวนาน 77
ปี มันสำแดงให้เห็นการคอร์รัปชันอย่างใหญ่โตมโหฬารในทุกรัฐบาล
มันสำแดงให้เกิดการรัฐประหารและกบฏ
มันสำแดงให้เห็นถึงความยากจนของประชาชน
มันสำแดงให้เห็นถึงการทรุดโทรมเสื่อมถอย เสื่อมเสียเกียรติยศของชาติ
มันสำแดงให้เห็นถึงการ กู้ กู้ กู้เงินมาบริหารประเทศ
มันสำแดงให้เห็นถึงความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้ปกครองไทยรุ่นแล้วรุ่นเล่ายาว
นาน 77 ปี มันสำแดงให้เห็นภาพรวมถึงความชั่วร้ายของลัทธิรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นลัทธิเผด็จ
การชนิดหนึ่ง โดยที่ผู้ปกครองไทยหลงใหลเข้าใจผิดอย่างร้ายแรงว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย
และแก้ไขยากที่สุด

พิสูจน์ วิจัยพรรคที่จดทะเบียนในประเทศไทย
ล้วนเป็นพรรคที่ทำลายชาติทั้งสิ้น ก็เห็นๆ กันอยู่
ทั้งนี้เพราะรากฐานที่แท้จริงของพรรคการเมืองที่จดทะเบียน
ล้วนเกิดจากระบอบเผด็จการทั้งสิ้น ประเทศประชาธิปไตย
ไม่มีประเทศไหนที่พรรคการเมืองต้องจดทะเบียน
การจดทะเบียนพรรคเป็นเรื่องของประเทศที่มีการปกครองแบบเผด็จการ
แต่พวกมันไม่ยอมรับความจริง มันปิดบังซ่อนเร้น
โง่เขลาเบาปัญญากันอย่างนี้แหละ
ผลที่ออกมาคือการทำลายชาติและประชาชนให้พินาศย่อยยับ

พรรคพันธมิตรฯ มีภารกิจถูกต้อง ยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์คืออะไร
มวลชนพันธมิตรฯ ท่านใดท่านหนึ่งหรือหลายๆ ท่าน โดยเฉพาะแกนนำพรรค
จะต้องรู้ว่าการนำพรรคเพื่อการสร้างสรรค์ชาติอย่างถูกต้อง ซึ่งพรรคอื่นๆ
กำลังหลงผิดอย่างร้ายแรงว่ารัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย
มีแต่ผู้ปกครองประเทศไทยประเทศเดียวที่หลงผิด

ดังนั้น ภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์สำคัญยิ่ง ก็คือ
การโค่นระบอบเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ ด้วยการผลักดันสถาปนาการปกครองโดยธรรม
โดยเสนอให้มีหลักการปกครองโดยธรรม สมดังที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล พูดว่า
"ธรรมนำแผ่นดินขจัดสิ้นเหตุวิกฤตชาติ" หลักการปกครองต้องมาก่อนรัฐธรรมนูญ
โดยมีปัญญาอันยิ่งใหญ่จากเหตุปัจจัยง่ายๆ ดังต่อไปนี้

ดวงอาทิตย์ต้องมาก่อน ดาวเคราะห์, ยุทธศาสตร์ต้องมาก่อน ยุทธวิธี,
รัฐศาสตร์ต้องมาก่อนนิติศาสตร์, หลักการปกครองต้องมาก่อน วิธีการปกครอง,
จุดมุ่งหมายต้องมาก่อน มรรควิธี, ระบอบ หรือหลักการปกครองต้องมาก่อน
รัฐธรรมนูญ, อำนาจอธิปไตยต้องมาก่อน อำนาจการปกครอง,
หลักนิติธรรมต้องมาก่อน การออกกฎหมาย, ระบอบการเมืองต้องมาก่อน
ระบบเศรษฐกิจ, หลักนโยบายต้องมาก่อน นโยบาย, นโยบายต้องมาก่อน
การดำเนินการและปฏิบัติ, พระราชอำนาจต้องมาก่อนอำนาจนิติบัญญัติ
อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ, หลักสัจธรรมต้องมาก่อน หลักปรัชญา วิทยาศาสตร์
ตรรกศาสตร์ ดังกล่าวนี้ ฉันใด

การสร้างการเมืองใหม่อย่างถูกต้องโดยธรรม หลักการปกครอง (ระบอบ)
ต้องมาก่อน การยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉันนั้น

พรรคพันธมิตรฯ
มีองค์ประกอบของความเป็นพรรคการเมืองโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว กล่าวโดยย่อ
ดังนี้

อุดมการณ์พรรค พรรคยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

สัจธรรม ปรัชญา เข้าใจว่าพรรคพันธมิตรฯ ถือธรรมเป็นใหญ่
ธรรมนำแผ่นดิน และลัทธิประชาธิปไตยสากล

หลักนโยบาย (Program) และ นโยบาย (Policy) มีจุดมุ่งหมาย
โดยมีภารกิจอันยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ของพรรค คือการแก้ไขเหตุวิกฤตชาติ
โดยผลักดันสถาปนาการปกครองโดยธรรม โดยมีหลักการปกครองโดยธรรม
ก่อนการร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ

องค์การมวลชนพรรค
คือมวลชนทั้งหมดที่ด้วยในแนวทางอันกว้างใหญ่ไพศาลโดยมีปัญญาชน เป็นรากฐาน

องค์กรสาขาพรรค เกิดขึ้นโดยสมัครใจมีทั่วไปหมดเต็มทั้งประเทศ

องค์กรสมัชชาพรรค คือ เข้าใจว่าเป็นตัวแทนของมวลชนพันธมิตรฯ
จากอำเภอต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 9,999 คนทั่วประเทศ

องค์กรคณะกรรมการกลางพรรค เป็นผู้แทนจังหวัดอย่างน้อย 300 -500 คน

คณะกรรมการบริหารพรรค เป็นองค์การนำพรรคสูงสุด

การตั้งพรรคโดยการจดทะเบียนกับ กกต. คือการสยบยอมต่อระบอบเผด็จการ
ในท้ายที่สุดก็กลายเป็นพรรคนักเลือกตั้งที่ไร้เหตุไร้ผล
มุ่งแสวงหาแต่ประโยชน์ตนและพวกพ้อง
มันเป็นปัญหาร้ายแรงของชาติก็เห็นกันอยู่ตรงหน้าแล้ว
อย่าผิดพลาดซ้ำรอยกันอีกเลย

พรรคพันธมิตรฯ หรือพรรคการเมืองใดๆ ก็ตาม ที่
สามารถเปลี่ยนการเมืองใหม่ให้มีหลักการปกครองโดยธรรม พรรคนั้นๆ
ประชาชนจะได้รับการไว้วางใจจากประชาชนตลอดไป ขอให้เดินหน้าต่อสู้
สู่ภารกิจอันยิ่งใหญ่ของชาติ เป็นพรรคการเมืองโดยธรรมชาติต่อไปเถิด

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000061296


- ผมไม่เข้าใจว่าคนที่มากล่าวว่า การตั้งพรรคไม่ดี ผมถาม
หน่อยว่า ถ้าไม่ตั้งจะทำอย่างไร เมื่อการต่อสู้แบบเดิม
มันกำลังเป็นไปได้ยากขึ้น การใช้กลยุทธ์แบบเดิม ๆ จะ
ใช้ได้นานเท่าไหร่ มันต้องเปลี่ยนวิธีการต่อสู้ก็เท่านั้น

- ผมถามหน่อย ถ้าพันธมิตรไม่ตั้งพรรค หรือพันธมิตรไม่
มีผมว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างเชื่อไหม
- โครงการรถเมล์ 4000 คันป่านนี้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
- โครงการประมูลสินค้าเกษตร และการรับจำนำป่านนี้
ผ่านไปแล้ว
- นี้ยังมีที่สุวรรณภูมิ ไม่ทราบว่าไปถึงไหนแล้ว
- หรือที่ผ่านมาหลาย ๆ เรื่อง จนต้องมีการพยายามฆ่า
ปิดปากคุณสนธิ

- ผมถามหน่อย ใครเป็นคนที่พยายามนำข่าวมาให้
ประชาชนรู้เรื่องแบบนี้ และประชาชนเปลี่ยนไปมากจาก
การที่ไม่ค่อยรู้เรื่องการเมื่อง เปลี่ยนมาเป็นพยายาม
ติดตามข่าว

- คุณว่าไม่ใช่พันธมิตรหลอกหรือ ที่ต่อสู้มาตลอด ถ้าคุณ
คิดว่าการต่อสู้ข้างถนน แก้ไขได้ ทำไมเราถึงยังมี
รัฐบาลแบบนี้อยู่ ยังมีนักการเมืองที่แปลงกาย เปลี่ยนที่
อยู่ พวกเดิม ๆ หรือเป็นตัวแทนพวกเดิม ๆ

- เราไม่มีทางแก้การเมืองเก่าได้เลย ถ้าพันธมิตรไม่เข้า
ไป ผมอาจจะเป็นคนที่ไม่ได้ไปร่วมในช่วงหลัง แต่ผมก็
บอกได้ว่า พันธมิตรมีคนที่มีคุณภาพอยู่มาก กล้าพูด
กล้าทำ ไม่แอบ และพร้อมที่จะชนกับสิ่งชั่วร้าย ซึ่งใน
ประวัติศาสตร์ชาติไทย ที่อยู่มาได้ทุกวันนี้ ก็เพราะคน
เหล่านี้ไม่ใช่หรือ เพราะทุกยุคทุกสมัย คนดีมีน้อยกว่า
คนเลวตลอด แต่ที่เปลี่ยนแปลงมาได้ เพราะคนดีที่กล้า
เหล่านี้แหละครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไม่เช่นนั้นก็ลองไป
อ่านประวัติศาสตร์ดู ว่าเป็นแบบนี้หรือเปล่าประเทศไทย

ทุก วันนี้พวกนักการเมืองน้ำเน่าทำการเมืองแบบนี้อยู่ได้
เพราะพวกเขาคิดว่าประชาชนไม่มีปากมีเสียง ไม่กล้าที่จะออกมา
หรือบางครั้งพวกเขาก็จะทำร้ายคนดีที่ออกมาต่อสู้ให้เป็นข่าว
เพราะจะได้เกรงกลัว

บ้านนี้เมืองนี้ คนดี คนเก่ง ยังไม่พอ เพราะต้องมีความกล้าด้วย
ดูคุณสนธิเป็นตัวอย่าง เกือบตายแล้ว ยังไม่กลัว ยังบอกในวันประชุมอีกว่า
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังไม่ยอมให้ตาย ผมก็เห็นด้วย เพราะผมก็เชื่อว่า
คนเราอาจจะไม่ดีทั้งหมด แต่ถ้าตั้งใจพยายามทำดีแล้ว ต้องให้กำลังใจกัน
อย่ามาเอาคำสัญญาในบางเวลา ที่สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว มากดดันให้คนดี
ไม่กล้าที่จะต่อสู้ต่อไป แล้วปล่อยให้คนไม่ดีปกครองบ้านเมืองต่อไป
หรือพวเราต้องการให้บ้านเมืองเป็นแบบนั้น
จุมพล
+++
ไม่เห็นด้วยคะ มันไม่เหมาะกับสถานการขณะนี้
และอาจจะต้องใช้เวลาที่ยาวนานเกินไป
แกนนำซึ่งเป็นศูนย์กลางในการหล่อหลอมมวลชนให้มีน้ำหนึ่งใจเดียวกันนั้นก็มี
อายุกันมากๆแล้วควรรีบตั้งพรรคให้ถูกต้องจะเหมาะกว่าและการทำหน้าที่ในสภา
ที่มีความแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่นก็จะประจักษ์ต่อสายตาของประชาชนแน่นอน
พธม กทม
++
พลตรี จำลอง ศรีเมือง เหมาะสมที่สุด ทั้งในอดีต และ ณ วันนี้ ด้วยเหตุผล
ประวัติ ที่มาที่ไป ความกว้างขวาง ในหมู่ การเมือง
เปนที่คุ้นเคยในวงการการเมือง นักการเมือง ยังเคารพ และยำเกรง
คือศักดิ์ศรี ความยำเกรง ยังกรุ่น อยู่ไม่เหือดหาย ชื่อเสียง การยอมรับ
เปนที่รู้จักดี คนมีสี ข้าราขการ ยังเคารพเกรงใจ อยู่
ตอนนั้นแม้จะยังไม่มีกองหนุน พลักดันเข้มแข็งอย่าง พันธมิตร ทุกวันนี้
ก็ยังเปนหัวหน้า พรรคได้อย่างเต็มภาคพูม มาทุกวันนี้ ณ วันนี้ ก็
เปนแกนนำหลักที่สำคัญยิ่ง และพูดได้ว่า ถ้าไม่มี ท่าน พลตรีจำลอง
ศรีเมืองแล้ว อย่าหวังจะขับไล่ รัฐบาลทรราช ทักษิณ ได้อย่างที่ผ่านมาได้
คุณ สนธิ เข้าใจในส่วนนี้ดี ถึงแม้ ท่านจำลอง ดูจะไม่มีบทบู้ลิ้ม เข้มข้น
อย่างคุณ สนธิ ชนิดตายเปนตายเจ้งเปนเจ้ง กล้าได้กล้าเสียอย่างคุณสนธิ
อย่างเด่นชัด แต่ท่านจำลอง ท่านเดินแผนล้ำลึก สุขุม
ถ้าคุณสนธิ มาเดินเกมนำทัพ เข้าสภา เปนหัวหน้าพรรค
อย่าลืมคุณสนธิเคยประกาศ จะไม่ไปไหน จะอยู่เคียงข้าง พี่น้อง พันธมิตร
ซึ่งเปนภาพที่เคยคุ้นอยู่กันมาตั้งแต่ต้นๆ ขาดคุณสนธินำฝ่ายพี่น้อง
ภาคประชาชน แล้วส่วน พี่น้อง พธม ดู จะจืดลงไปอย่างชัดเจนคุณ สนธิ
ถือกำเนิดมาในภาคส่วนกับพี่น้อง ประชาชนมาโดยตลอด
ทำหน้าที่ให้ความรู้สู่ภาคประชาชน จนเปนที่เคยชินในความรู้สึกมาโดยตลอด

คุณประพันธ คูณมี เหมาะที่จะเดินตาม ท่านจำลอง เข้าสภา
และยังมีอีกหลายคนที่เคยผ่าน สส มาในอดีต มาร่วมสมทบเดินเกมเข้าสภาได้อีก

ฝาก ไว้อีกคน น้อง แอร์ คุณ เมธาวดี ที่กำลังทำหน้าที่เสนอ
ข่าวอยู่ทุกวันนี้ รู้สึกโดยส่วนตัว น้องแอรฺ ฉายแวว
ออกมาได้ชัดเจนที่จะสามารถทำหน้าที่เปนตัวแทน พี่น้องประชาชนได้
ในเวทีการเมือง ทั้งท่าทาง ท่วงที ทำนองการพูดการจา คำพูดคำจา
ความคิดต่างๆ จะเหมาะเล่นการเมืองได้ และดูๆแล้ว รู้สึก จะเปนนักการเมือง
น้ำดีได้ น่าจะดีกว่า นักการเมืองที่เปนอยู่ปัจจุบันนี้ เปนได้
คล่องและดีกว่า หลายๆคนที่กำลังเปนอยู่ในสภา ด้วยจริงๆ สังเกต ดูได้
คนไทยแดนตะวันตก
+++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น