++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เผยแพร่ลัทธิหัวร่อเป็นยาวิเศษชำระล้างทั้งจิตใจและร่างกาย

ชาว อินเดียเจ้าตำรับหัวร่อเพื่อสุขภาพ นายสุชิล ภาเตีย ได้เที่ยวรับจ้างไปเผยแพร่ความเชื่อของเขา ตามสำนักงานของบริษัทต่างๆในสหรัฐฯ แรกๆเพื่อนเขาจะกล่าวชักชวนให้ที่ประชุม ช่วยกันหัวเราะตามอย่างเขา เมื่อเขาหัวร่อขึ้นมาโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย พร้อมกับออกท่าออกทางชูมือชูไม้ไปด้วย ในตอนแรกจะมีเพียงไม่กี่คนที่เริ่มหัวร่อขึ้น แต่ต่อมาก็จะมีคนเอาอย่าง ต่างหัวร่อกันและกัน จนเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งห้องจนได้

นายภาเตียได้ไปตั้งตัวเป็นประธานของสโมสรการหัวร่อแห่งอเมริกา เขาเทศนาว่า หัวร่อเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันช่วยระบายความเครียดออกมาได้ มันมีสรรพคุณเหมือนกับเป็นยาวิเศษ เป็นหนทางของการมีสุขภาพจิตดีและความคิดสร้างสรรค์ การหัวร่อเป็นการชำระล้างจิตใจ

เขาส่งเสริมให้คนหัวร่อขึ้นเอง โดยไม่ต้องมีใครมายั่ว หรือมีเรื่องตลกอันใด เขาอ้างว่าการมีเรื่องตลกก็ชั่วพักเดียวก็หายตลกแล้ว

ความคิดเรื่องการหัวเราะเป็นโอสถวิเศษ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเกิดเชื่อถือในอินเดียมานานแล้ว จนมีการตั้งสโมสรของคนหัวร่อขึ้นหลายแห่ง จนค่อยแพร่หลายออกไปทั่วโลก

สาวกของนายภาเตียคนหนึ่ง นายเทด เวลต์ ประธานหอการค้าเมโทรเวสต์ เล่าว่าเขาเคยอ้วนและมีสุขภาพไม่ดี แต่เมื่อเขาได้เข้าร่วมการชุมนุมกับเพื่อนคนอื่น เพื่อรับการบำบัดด้วยการหัวร่อเมื่อหลายปีมาแล้ว ทำให้สุขภาพดีขึ้น การหัวเราะช่วยทำให้จิตใจสบายและรู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงกระชุ่มกระชวย พลอยทำให้เขามีกำลังใจออกกำลัง จนลดน้ำหนักได้ตั้ง 40 กว่ากิโลกรัม ผมเชื่อว่ามันทำให้ผมมีอายุยืนยาวมาได้จนป่านนี้.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น