++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

"ไมเคิล แจ็กสัน" หัวใจวาย - นางฟ้าชาร์ลี "ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์" เสียชีวิตแล้วด้วยมะเร็ง

"ไมเคิล แจ็กสัน" หัวใจวาย - นางฟ้าชาร์ลี "ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์"
เสียชีวิตแล้วด้วยมะเร็ง

ช็อกโลก! "ไมเคิล แจ็กสัน" หัวใจวาย เสียชีวิตแล้ว!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มิถุนายน 2552 06:30 น.

"ไมเคิล แจ็คสัน" นักร้องชื่อดังเจ้าของฉายา "ราชาเพลงป็อป"
ได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล
เมื่อได้รับรายงานว่าเขาหัวใจวายที่บ้านพักของตัวเองเมื่อบ่ายวันนี้

ไมเคิล แจ็คสัน
นักร้องชื่อดังของวงการดนตรีโลกได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 50 ปี ที่ลอส
แองเจลิส เมื่อเวลาบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของ TMZ และ
หนังสือพิมพ์ latimes.com

ไมเคิลเกิดอาการหัวใจวายเมื่อช่วงบ่ายที่บ้านพักของเขาที่ Holmby
Hills ซึ่งทีมพยาบาลไม่สามารถช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ได้
ซึ่งตอนที่ทีมแพทย์ไปถึงที่เกิดเหตุ ไมเคิลก็สิ้นลมหายใจไปเสียแล้ว
แต่ทีมแพทย์ก็ไม่สามารถนำลมหายใจของเขากลับคืนมาได้

แหล่งข่าวเผยว่าไมเคิลเสียชีวิตตั้งแต่ถูกส่งตัวมาถึงที่โรงพยาบาล
UCLA ทางทีมแพทย์โรคหัวใจที่โรงพยาบาลเผยสาเหตุการเสียชีวิตมาจากหัวใจวาย

แม้ทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลจะพยายามยื้อชีวิตของไมเคิลกับมาเป็นครั้งที่สอง
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นกัน

ลาโทยา พี่สาวของไมเคิลถูกพบวิ่งร้องไห้เข้าไปในโรงพยาบาล
เมื่อเธอรู้ว่าน้องชายคนดังของเธอเสียชีวิตแล้ว

ไมเคิลมีทายาททิ้งไว้ดูต่างหน้า 3 คน คือ ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน,
ปาริส ไมเคิล แคเธอรีน แจ็คสัน และ พรินซ์ ไมเคิล แจ็คสัน ที่สอง

ทางด้าน ไมเคิล เลวิน
อดีตประชาสัมพันธ์ของไมเคิลออกแถลงการณ์ล่าสุดมาว่าเขาไม่รู้สึกแปลกใจเลย
ซักนิดว่าข่าวเศร้าของวงการเพลงครั้งนี้จะมาถึงเร็วกว่าที่หลายๆ คนคาด

"ในฐานะคนที่ทำหน้าที่เป็นประชาสัมพันธ์ให้กับไมเคิล
แจ็คสันมาตั้งแต่คดีละเมิดทางเพศเยาวชนครั้งที่หนึ่ง
ผมขอเปิดใจว่าผมไม่ประหลาดใจต่อโศกนาฎกรรมในวันนี้เลย"

"ไมเคิลต้องเผชิญกับปัญหายากลำบากที่เกินกว่าใครจะเชื่อ
และพาตัวเองเข้าสู่เส้นทางทำลายตัวเองมาเป็นปีๆ
ความสามารถของเขาไร้ข้อกังขา
แต่มันก็แลกมาด้วยความแปลกแยกของเขาจากวิถีของชาวโลกทั่วไป"

"คนธรรมดาไม่สามารถทนรับต่อระดับความตึงเครียดที่ยาวนานเช่นนี้"

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072204


จำได้ว่าตอนนั้นผมอยู่ ม.6 เป็นครั้งแรกที่เห็นมิวสิกวิดีโอเพลงในชุด
Triller ของไมเคิลทางทีวี ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากๆ กับท่าเต้น ทำนองเพลง
และ Production รู้สึกว่ามันสุดยอดมากๆ
เป็นการสร้างสรรค์งานที่แตกต่างอย่างสุดยอด
แตกต่างจากที่เราเคยเห็นมาอย่างชัดเจน นั้นคือครั้งแรกที่ผมรู้จักไมเคิล
และอยากบอกว่าชุด Triller เป็น CD ที่ผมซื้อเป็นแผ่นแรกในชีวิตผม

และ ต่อมาผมก็รู้จักเขามากขึ้นว่าเขาแต่งเพลงเอง
ซึ่งผมจะรู้สึกยอมรับมากๆ กับศิลปินที่แต่งเพลงเอง เพลงที่ผมชอบมากๆคือ
We Are The World และ Heel The World
ถึงแม้ว่าผมไม่ใช่แฝนเพลงตัวยงของไมเคิล
แต่ผมยอมรับโดยไม่มีข้อสงสัยว่าเขาเป็นอัจฉริยะ

อัจฉริยะย่อมแตกต่าง
ตั้งแต่อดีตกาลศิลปินที่เป็นอัจฉริยะหลายคนที่ถูกผู้คนในสมัยนั้นๆจะ
รังเกียจในความแปลกของเขา จริงๆแล้วการคิดต่าง
ทำต่างโดยไม่รบกวนผู้อื่นนั้นเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเขา 100%

พวกเรา ลืมไปว่า ความแปลกที่เราไปคิดรังเกียจ หรือไม่ชอบ ไปว่าเขานั้น
ไม่ได้มารบกวน หรือทำร้ายคนอื่นเลย เป็นเรื่องที่ตัวเขาเลือกเอง
ทำตัวเองทั้งนั้น

วันนีััผมขึ้นรถไปทำงานบังเอิญจริงๆ เปิด Green Wave อยู่
เสียงเด็กพูดต้นเพลง Heel The World ดังขึ้นมาเลย ผมจอดฟังจนจบเพลง
ไม่ได้รู้สึกเศร้านะ แต่รู้สึกคิดถึง ... ลาก่อนไมเคิล
pop up


นางฟ้าชาร์ลี "ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์" เสียชีวิตแล้วด้วยมะเร็งในวัย 62
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


"ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์" นักแสดงหญิงที่เป็นสัญลักษณ์ของซูเปอร์สตาร์แห่งยุค
70 ต้นแบบ "นางฟ้าชาร์ลี"
ละครที่โด่งดังจากความสวยและผมบลอนด์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ
ได้เสียชีวิตลงแล้วจากอาการแทรกซ้อนของโรคมะเร็งทวารหนักในวัย 62 ปี

ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์ นักแสดงสาวรุ่นใหญ่วัย 62 ที่โด่งดังจากละคร
Charlie's Angels ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 09.28 น.ของวันพฤหัสบดีที่
25 ในโรงพยาบาล St. John's Heath Center ในซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย
จากอาการแทรกซ้อนของโรงคมะเร็งทวารหนักที่เธอถูกตรวจพบเมื่อ 3 ปีก่อน

ไรอัน โอ'นีล
คู่รักของเธอที่คอยเฝ้าดูอาการของแฟนสาวจนวินาทีสุดท้ายพร้อมกับเพื่อนสนิท
ที่มาอยู่ดูใจ กล่าวถึงการสูญเสียครั้งนี้ว่า "เธอจากไปแล้ว
ตอนนี้เธอได้ไปอยู่ร่วมกับแม่, พี่สาว และพระเจ้าของเธอ
ผมรักเธอด้วยทั้งหมดของหัวใจ ผมคงจะคิดถึงเธอมากๆ
ก่อนจากไปสติของเธอขาดหายเป็นช่วงๆ ผมอยู่คุยกับเธอตลอดทั้งคืน
ผมบอกเธอว่าผมรักเธอแค่ไหน ตอนนี้เธอไปอยู่ในที่ที่ดีกว่าแล้ว"

"เพื่อนๆ ของเธอมาอยู่กันที่นี่หมดตอนที่เธอจากไป
ตาของเธอยังลืมอยู่ แต่เธอไม่ได้พูดอะไร
แต่เรารับรู้ในดวงตานั้นว่าเธอจำพวกเราได้ทั้งหมด"

เมื่อต้นเดือนนี้เองที่โอ'นีลเพิ่งจะขอฟอว์เซตต์แต่งงานกับเขา
หลังจากคบหากันมากว่า 20 ปี ซึ่งเธอก็ตอบตกลงในที่สุด
ทั้งสองเตรียมจะเข้าพิธีวิวาห์ที่ไม่มีวันเกิดขึ้นทันทีที่เธอมีแรงพอที่จะ
พูด "ยอมรับ" ได้

หนึ่งในคนสำคัญที่ไม่ได้มาดูใจที่ข้างเตียงตอนเที่เธอจากไปได้แก่ลูกชายคนเดียวที่เธอมีกับกับโอ'นีลอย่าง
เรดมอน วัย 24 ที่กำลังถูกคุมขังในเรือนจำข้อหายาเสพติด
แต่เขาโทร.มาหาผู้เป็นแม่เพื่อบอกว่า "เขารักเธอมากแค่ไหน
และขอร้องให้เธอยกโทษให้กับเขา เขารู้สึกเสียใจอย่างล้นเหลือ" โอ'นีลเผย

การต่อสู้กับมะเร็งร้ายในช่วงสุดท้ายที่ถูกถ่ายทำเป็นสารคดีในชื่อว่า
Farrah's Story มีผู้ชมติดตามทางโทรทัศน์กว่า 9 ล้านคน
ที่เป็นตามติดการเดินทางไปรักษาตัวทั้งที่อเมริกาและในประเทศเยอรมนีที่เธอ
ยอมเข้ารับการรักษาด้วยวิธีการทดลอง อย่างการวิเคาาะห์ระดับปริมาณเหล็ก
(iron determination) แม้ว่าร่างกายของเธอจะอ่อนแอลงมากแล้ว

ในสารคดีนั้นผู้ชมได้เห็นฟาร์ราห์ในสภาพศีรษะล้าน
หลังจากการเข้าสู่เคมีบำบัดได้พรากเอาทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ของเธอไปจนหมด
จนในตอนสุดท้ายผู้ชมจะเห็นภาพของเธอนอนอยู่บนเตียงและแทบจะไปรับรู้การมา
เยี่ยมของลูกชายของเธอแม้แต่น้อย

กำเนิดนางฟ้าชาร์ลี

ฟาร์ราห์ ฟอว์เซตต์, เคต แจ็กสัน และ แจ็กเกอลีน สมิธ
ที่ร่วมแสดงกันในละครโทรทัศน์ Charlie's Angels
ที่ออกฉายครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ย.ปี 1976
ถือเป็นปรากฏการณ์ของละครทีวีในอเมริกายุคนั้นกับภาพสามสาวสุดเซ็กซี่ในชุด
รัดรูป ที่ออกต่อกรกับเหล่าร้ายด้วยศิลปะป้องกันตัวชั้นยอด
จนมีผู้ชมติดตามในแต่ละสัปดาห์มากกว่า 23 ล้านคน

แต่ผู้ที่โด่งดังที่สุดในบทนางฟ้าทั้งสามตกเป็นของฟาร์ราห์อย่างรวด
เร็ว ทั้งรูปร่าง, หน้าตา และทรงผมที่โดดเด่น
ได้แปรเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์มากมายที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
ตั้งแต่เสื้อยืด, กล่องอาหารกลางวัน, ยาสระผม, วิก
จนถึงของที่ไม่น่าเชื่ออย่างก๊อกน้ำรุ่น Farrah's faucet

แต่ที่กลายเป็นปรากฏการณ์แห่งยุคสมัยได้ภาพถ่ายที่เธอไปโพสต์ในชุด
ว่ายน้ำสีแดงกับรอยยิ้มสดใส
จนโปสเตอร์ดังกล่าวกลายเป็นของสามัญประจำห้องนอนของเด็กหนุ่มอเมริกันในยุค
นั้น ด้วยยอดขายที่ยังคงเป็นสถิติที่ 12 ล้านแผ่น

แต่เธอก็สร้างความช็อกให้กับแฟนๆ ซีรีส์
เมื่อเธอประกาศหันหลังให้กับ Charlie's Angels
หลังจากแสดงไปได้แค่ซีซันเดียว

แต่การหันหน้าเข้าสู่แวดวงจอเงินกลับไม่สวยงามอย่างที่เธอหวัง
เมื่อผลงานเปิดตัวเรื่องแรกอย่าง Somebody Killed Her Husband
หนังตลกลึกลับกลับล้มเหลวอย่างแรง
จนมีการเปลี่ยนชื่อใหม่อย่างล้อเลียนว่า Somebody Killed Her Career

แต่หลังจากนั้นเธอก็กลับมาในผลงานภาพยนตร์ดรามาทางโทรทัศน์อย่าง
Murder in Texas, Poor Little Rich Girl โดยเฉพาะบทภรรยาที่ถูกทำร้ายใน
The Burning Bed เมื่อปี 1984 ที่เธอแสดงความสามารถทางการแสดงให้ประจักษ์
จนเปลี่ยนทัศนคติของเหล่านักวิจารณ์ก่อนหน้านี้ที่เคยชี้ว่าเธอไม่สามารถ
แสดงหนังได้ จนเธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Emmy Awards ในปีนั้นในที่สุด

สำหรับพิธีศพของฟาร์ราห์ ฟอเซตต์
ทางโอ'นีลเผยว่าเตรียมจะจัดพิธีกันที่วิหารคาทอลิกในย่านดาวน์ทาวน์ของลอส
แองเจลิสในอีกไม่กี่วันนี้


http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9520000072180

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น