++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ที เอ็มแซดโคนมสายพันธุ์ใหม่ให้นมมาก

กลุ่มวิจัยและพัฒนาโคนม กองบำรุงพันธุ์ สัตว์ ร่วมกับศูนย์วิจัย และบำรุงพันธุ์สัตว์ลำพญากลาง กรมปศุสัตว์ สร้างโคนมพันธุ์ ที เอ็ม แซด ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร
นางกรองแก้ว บริสุทธิ์สวัสดิ์ นักวิชาการสัตวบาล 7 กลุ่มงานวิจัยฯ เล่าให้ หลายชีวิต ฟังว่า โคนมที เอ็ม แซด เกิดจากการคัดเลือก และปรับปรุงสายพันธุ์จากโคนม ที่ให้ผลผลิตน้ำนมสูงคือ พันธุ์ ขาว-ดำ (โฮลสไตน์ฟรีเชียน) และ โคเขตร้อนพันธุ์ซีบูกับพื้นเมือง ซึ่งจะทนต่อสภาพอากาศแบบร้อนชื้น และมีความสมบูรณ์พันธุ์ สูง ให้มีระดับสายเลือดโคพันธุ์ขาวดำ 75 เปอร์เซ็นต์ และสายเลือดของโคเขตร้อน 25 เปอร์เซ็นต์
อัตราการเจริญเติบโต โคพันธุ์เพศซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบสมรรถภาพ น้ำหนักแรกเกิดโดยเฉลี่ยที่ 29.69 กก. น้ำหนักอย่านม (90 วัน) โดยเฉลี่ย 106.77 กก.น้ำหนักเมื่ออายุ 1 ปี โดยเฉลี่ย 218.07 กก. ส่วนโคพันธุ์ เพศเมีย จะเริ่มเป็นสัดและพร้อมผสมพันธุ์ที่อายุ 18 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องดูที่น้ำหนักต้องไม่ต่ำกว่า 280 กก. เมื่อแม่โคตกลูกตัวแรก ปริมาณน้ำนมโดย เฉลี่ยจะอยู่ที่ 12.11 กก./วัน จำนวนวันรีดนม 285 วัน น้ำนมตลอดระยะการให้นม 3,446 กก.
...คุณสมบัติที่เด่นและพิเศษ ของโคสายพันธุ์นี้คือ เมื่อตกลูก 60-80 วัน จะเริ่มเป็นสัดใหม่ ซึ่งสามารถผสมและติดได้ง่าย...
เมื่อ เข้าสู่คอกที่ 2-3...หลังจากแม่โคตั้งท้องได้ 7 เดือน เกษตรกรจะเริ่ม ดาย (dry) หรือรีดน้ำนมน้อยลง เพื่อให้ลูกในท้องเจริญเติบโต อย่างเต็มที่และสมบูรณ์ หลังจากตกลูกคอก 2 ปริมาณน้ำนมและจำนวนวันรีด จะเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซึ่งโดยเฉลี่ยน้ำนม แต่ละวันจะอยู่ที่ 16.22 กก./วัน ส่วนการปลดระวางแม่พันธุ์ โดยเฉลี่ยหลังจากแม่โคให้ลูก 7 ตัว แต่ทั้งนี้จะดูที่สุขภาพแม่โคเป็นหลัก
การให้ผลผลิตน้ำนม สูงเฉลี่ย 3,000-4,500 กก. ต่อระยะการให้นม (270-305 วัน) ไม่อั้นนม ทน ต่อโรคและแมลงต่างๆ ทนเห็บ และสามารถเลี้ยงได้ดีในภาพแวดล้อมของประเทศไทย ซึ่งมีสภาพอากาศแบบร้อนชื้น ส่วนการเลี้ยงในฤดูแล้งจะเลี้ยงโครุ่น-โคท้องสาวด้วยอาหารหยาบ ได้แก่ ฟางข้าวเป็นหลัก เสริมด้วยอาหารข้น 0.5-1 กก./ตัว/วัน และเสริมด้วยวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ได้แก่ มันสำปะหลัง ต้นกล้วย หญ้าจัมโบ้ หญ้ารูซี่ (ถ้ามี) ส่วนฤดูฝน เลี้ยงด้วยหญ้าสดโดยไม่ต้องเสริมอาหารข้น
เกษตรกรรายใดที่สนใจ สามารถติดต่อสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2653-4451 ทุกวันในเวลาราชการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น