++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เกมคอมพิวเตอร์ทำให้เสพติดได้แต่ไม่เป็นโทษจนถึงกับต้องรักษา

เกมคอมพิวเตอร์ทำให้เสพติดได้แต่ไม่เป็นโทษจนถึงกับต้องรักษา

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า จากการศึกษาบางอันพบหลักฐานว่า
เกมสามารถที่กระตุ้นการทำงานของสมอง เหมือนกับการเสพยาเสพติด
หรือการดื่มเหล้า แต่อาการติดการเล่นเกมนั้น
ไม่ถึงกับจำเป็นต้องทำการบำบัดรักษา ด้วยยาเหมือนอาการติดอย่างอื่นๆ

ฟลอเรนซ์ ฟราเซอร์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในแคนาดากล่าวว่า
เกมที่ได้รับความนิยมสูง อย่างเช่น เอเวอร์เควส นั้น
ทำให้เกิดอาการติดได้ง่าย ไม่ต่างอะไรจากคนบางคน ที่ติดการทำงาน
หรือเด็กที่ติดโรงเรียน นักวิจัยยังพบว่า
มีเด็กวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยจากทั่วโลก ที่ฆ่าตัวตาย
หลังจากที่ได้เล่นเกมที่มีความรุนแรง รัฐบาลของหลายๆ ประเทศ
ก็ได้สร้างแรงกดดันให้กับอุตสาหกรรมเกม
โดยกำหนดให้คำนึงถึงเรื่องของสุขภาพ และพฤติกรรมที่อาจจะมีผลต่อผู้เล่น
ส่วนบรรดานักเล่นเกม ต่างพูดถึงพฤติกรรมการเล่นของตนเองว่า เป็นอาการติด
ซึ่งสตีเฟ่น เคลน
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาและการวิจัยสื่อจากมหาวิทยาลัยไซมอน ฟราเซอร์
กล่าวว่า ผู้เล่นเกมเอเวอร์ เควส ร้อยละ 15 ระบุว่าตนเองมีอาการติด
แม้ว่าคำว่าติดนั้นจะมีความหมายถึง การมีใจจดใจจ่ออยู่แต่กับสิ่งนั้น
กระหายที่จะเล่น นอกจากนั้นยังพบว่า นักเล่นเกมจำนวนนับร้อยคน
ที่มีพฤติกรรมในการเล่นเกมออนไลน์อย่างหนัก โดยกว่าครึ่งของคนกลุ่มนี้
เริ่มมีความขัดแย้งในครอบครัว
หรือบางคนถึงขั้นที่ความสัมพันธ์กับคนรักล้มเหลว เพราะผลจากการเล่นเกม
สำหรับคนที่เล่นเกม
และถูกจัดว่าเป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมในการเล่นอย่างหนักนั้น
จะเล่นประมาณสัปดาห์ละ 17 ถึง 26 ชั่วโมง และกลุ่มเด็กๆนั้น
จะเริ่มเล่นเกมกันตั้งแต่อายุประมาณ 10 ขวบ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น