++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สนธิในฐานะหัวหน้าพรรคพันธมิตรฯ

โดย ชัยอนันต์ สมุทวณิช


ใครที่ได้เห็นการชุมนุมของพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมนี้
ก็จะต้องประทับใจ โดยเฉพาะการใช้สิทธิโดยตรงในการพิจารณาตั้งพรรค
นับว่าเป็นวิธีการหนึ่งของ "การเมืองใหม่"
ที่ไม่เคยมีพรรคการเมืองใดทำมาก่อน

เมื่อพันธมิตรฯ ตัดสินใจตั้งพรรคการเมือง ก็ไม่ได้หมายความว่า
การเคลื่อนไหวนอกสภาฯ จะต้องไม่มี
เพียงแต่จะต้องไม่มีการชุมนุมประท้วงอย่างยืดยาว
และมีการยึดสถานที่ทำการของรัฐบาลเท่านั้น หากใครคิดว่า
เมื่อมีพรรคการเมืองแล้ว พันธมิตรฯ จะชุมนุมนอกสภาฯ ไม่ได้ก็คิดผิด
เพราะสิทธิของการชุมนุมยังคงมีอยู่ นอกจากนั้น พรรคพันธมิตรฯ
ก็คงจะใช้การจัดกิจกรรมทางการเมืองเพื่อให้การศึกษาทางการเมืองแก่ประชาชน
ต่อไป

ผมชอบใจที่จิตตนาถ ลิ้มทองกุล พูดตรงๆ ว่า ASTV
เป็นสื่อที่เลือกข้างแล้ว แทนที่จะแอบๆ
ให้การสนับสนุนนักการเมืองคนใดคนหนึ่งอยู่อย่างที่ชอบทำกัน

ผู้ที่น่าจะเป็นหัวหน้าพรรคคนแรกของพันธมิตรฯ ก็คือ คุณสนธิ
ลิ้มทองกุล แม้ว่าคุณสนธิ จะไม่เคยมีความปรารถนาในการเข้ามาทำงานการเมือง
แต่ก็มีคุณสมบัติของผู้ที่จะเป็นนักการเมืองที่ดีได้หลายประการ
ทั้งทางด้านการศึกษา ประสบการณ์ ความตั้งใจ
และแนวทางการต่อสู้ทางการเมือง

คุณสนธิมีเลือดนักต่อสู้ แม้จะบอกว่าเป็นลูกเจ๊กลูกจีน
แต่ก็ไม่ใช่เจ๊กจีนธรรมดา บิดาของคุณสนธิเป็นนักเรียนนายร้อยหวงผู่
มีบทบาทในการเคลื่อนไหวต่อต้านญี่ปุ่น
มีสายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับผู้นำจีนที่ร่วมต่อต้านญี่ปุ่นด้วยกัน
ตัวคุณสนธิเองก็มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้นำจีนระดับโปลิตบูโร

คุณสนธิ มีความรู้และประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ด้านการเงินการลงทุน รู้จักนักวาณิชธนกิจ และบริษัทวาณิชธนกิจนานาชาติ
เพราะเคยไปซื้อกิจการโรงพิมพ์ในสหรัฐอเมริกา และตั้งบริษัทเอเชีย อิงค์
ที่ฮ่องกง ในระยะ 20 ปีที่ผ่านมา คุณสนธิเดินทางรอบโลก รู้จักผู้คนมากมาย
ทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย โดยเฉพาะอินโดจีน และจีน ทั้งจีนใหญ่
และไต้หวัน

การที่เป็นคนชอบอ่าน ชอบคิด ทำให้คุณสนธิมีความรอบรู้เท่าทันโลก
คุณสนธิอ่านหนังสือด้วยตนเอง
ต่างกับคุณทักษิณที่มีผู้อ่านแล้วย่อความเป็นภาษาไทยให้
คุณสนธิมีความสามารถทางภาษา พูดภาษาอังกฤษได้ สามารถแสดงปาฐกถาได้ดี
และพูดภาษาจีนกลางได้ นอกจากนั้นก็ยังชอบศิลปะ
มีน้อยคนที่รู้ว่าคุณสนธิมีภาพวาดของศิลปินชั้นนำของจีนมากที่สุด

คุณสนธิเป็นผู้ใฝ่ในธรรม มีครูบาอาจารย์ และเคยบวชเรียนมาแล้ว
ทำให้มีการพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็วและมั่นคง
จนเกิดความอดทนอดกลั้นอันเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับนักการเมือง

ถ้าคุณสนธิเป็นหัวหน้าพรรคการเมือง
ก็จะเป็นที่คร้ามเกรงของหลายพรรคการเมือง พรรคพันธมิตรฯ
ที่ยึดแนวทางการเมืองใหม่ จะเป็นพรรคทางเลือก
แม้จะต้องดำเนินงานทางการเมืองยากลำบากหน่อย
แต่ในระยะยาวก็จะมีความยั่งยืน

พรรคพันธมิตรฯ ที่มีแนวทางการเมืองใหม่ จะเป็นอย่างไรนั้น
พอจะคาดการณ์ได้ดังนี้

1. การก่อตั้งพรรค และการเลือกหัวหน้าพรรคมาจากการประชุมใหญ่ของพรรค

2. การคัดเลือกตัวผู้สมัครมาจากประชาชนผู้เป็นสมาชิกของเขตเลือกตั้งนั้นๆ

3. พรรคจะเลือกเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีประวัติการทำงานที่สะอาด

4. พรรคจะไม่ใช้วิธีการซื้อสิทธิในการเลือกตั้ง

5. ผู้นำพรรคไม่จำเป็นจะต้องเข้าไปร่วมเป็นรัฐมนตรี

6. ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคกับสมาชิกจะมีอยู่ตลอดเวลา
โดยผ่านทางกิจกรรมทางการเมืองในรูปแบบต่างๆ

7. พรรคจะไม่อาศัยตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบ

8. พรรคจะพยายามดำเนินการปฏิรูปทางการเมืองโดยเสนอแนวความคิดใหม่ๆ
ในการจัดโครงสร้างทางการเมือง

9.การระดมเงินจะอาศัยฐานสมาชิก และการจัดทำสิ่งของขายแก่สมาชิก

โดยเฉพาะข้อสุดท้ายนี้ หากสมาชิกให้ค่าบำรุงพรรคคนละ 100
บาทต่อเดือนอย่างสม่ำเสมอ พรรคพันธมิตรฯ
ก็จะเป็นพรรคการเมืองพรรคแรกที่ลดการพึ่งพาการเงินจากนายทุนเพียงไม่กี่คน
และก็จะมีอิสระในการดำเนินงานทางการเมืองได้

การได้คุณสนธิเป็นหัวหน้าพรรค จะทำให้พรรคพันธมิตรฯ
เป็นพรรคที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว
เพราะคุณสนธิได้รับศรัทธาจากประชาชนจำนวนมาก มีผู้คะเนว่า
ผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ ทั่วประเทศมีไม่น้อยกว่า 10 ล้านคน และยิ่ง ASTV
ขยายจานดาวเทียมออกไปสู่ชนบทมากขึ้น ผู้สนับสนุนก็จะมีมากขึ้นเป็นลำดับ
ในการเลือกตั้งครั้งแรกพรรคใหม่นี้อาจได้ที่นั่งในสภาฯ ไม่มากนัก
แต่ในการเลือกตั้งครั้งที่สองคงจะได้เพิ่มขึ้น
สามารถเป็นพรรคขนาดกลางได้ในระยะเวลา 2-3 ปี

จะอย่างไรก็ตาม พรรคพันธมิตรฯ
จะส่งผลสะเทือนอย่างใหญ่หลวงต่อการเมืองไทยอย่างแน่นอน

http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000060945

ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ชัยอนันต์ทุกประการ
แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือคุณสนธิและแกนนำเคยลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะ"ไม่ปราถนา
และไม่มีวัน"รับตำแหน่งทางการเมือง
หัวหน้าพรรคก็เป็นตำแหน่งทางการเมืองนะครับ
การรักษาสัจจะมันเป็นการแสดงออกเรื่องคุณธรรม ผมก็พึ่งจะเข้าใจว่าทำไม
- พันท้ายนรสิงห์ต้องยืนกรานให้พระเจ้าเสือเอาโทษ
- ทำไมอาจารย์ป๋วยถึงไม่ยอมรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลังหรือตำแหน่งนายกที่มีคนทาบทามหลายครั้ง
- ทำไมสุจินดาถึงล้มคว่ำไม่เป็นท่าทั้งที่ตำรวจทหารแข้งแกร่งเป็นปึกแผ่นสุดๆ
- ทำไมทักษิญที่มีฤทธานุภาพมหากาฬถึงหาแผ่นดินอยู่ไม่ได้
เพราะการรักษาสัจจะมันเป็นเรื่องของคุณธรรมสูงสุดที่ผู้จะมีอำนาจพึงมีเป็นเบื้องต้นครับ
แล้วจะ เอาคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมแบบคุณสนธิและแกนนำไปไว้ไหน
พรรคใหม่ตยังต้องอิงมวลชน แกนนำก็อยู่กับการเมืองภาคประชาชนต่อซิครับ
เรายังมีเรื่องต้องทำอีกตั้งมากมายในการ
ยังมีเทียนอีกหลายเล่มต้องแจกจ่าย เมื่อทั่วถึงแล้วจุดทีเยวสว่างพรึ่บ
oldbot

+++
การรักษาสัจจะเป็นสิ่งที่ดีและน่ายกย่องแต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่แล้วเราก็
เห็นว่าแกนนำไม่ได้เข้าไปมีส่วนรวมหรือได้รับตำแหน่งตามที่ให้สัญญาแล้ว
ก็เป็นอันว่าได้ทำตามที่ให้สัจจะแล้ว
หลังจากนี้การจะเข้าไปมีส่วนร่วมหรือรับตำแหน่งก็เป็นไปเพื่อประเทศชาติ
เราเคารพความจริงใจของแกนนำเสมอ
ถ้าแกนนำท่านใดสมัครใจเป็นภาคประชาชนเราก็จะสนับสนุนภาคประชาชน
ถ้ามีการตั้งพรรคเราก็จะสนับสนุนและขอเป็นสมาชิกพรรคด้วย
เรา เคยไม่เห็นด้วยถ้าแกนนำเข้าไปรับตำแหน่งในทางการเมือง
แต่ได้เห็นกันแล้วว่าถ้าไม่เอาน้ำดีขับน้ำเสียให้หมด
น้ำดีที่ผสมน้ำเสียก็จะเป็นน้ำดีไปไม่ได้
แต่ขอให้เราทุกคนให้กำลังใจและสนับสนุนในการมีพรรคการเมืองของเราอย่าทอด
ทิ้งกันเมื่อเจออุปสรรคใดๆ
เราต้องร่วมกันผลักดันให้ผ่านไปให้ได้เหมือนผ่านด่านตำรวจเวลาไปทำสงคราม
เก้าทัพไงพี่น้อง...เอ้ย
สัจจะ
+++
ดูเหมือนท่านจันทร์จะเคยบอกในรายการว่าก่อนที่พระพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้นั้น
พระองค์ทรงตั้งปณิทานว่าจะไม่ละเลิกการบำเพ็ญทุกรกริยาจนกว่าจะบรรลุ
แต่หลังจากที่พระองค์ได้ปฏิบัติจนเกือบจะสิ้นพระชนม์
พระองค์ก็ทรงพบว่านี่ไม่ใช่ทางที่ถูกต้องก็ได้กลับมาเสวยอาหารและในที่สุดก็
ทรงสำเร็จ ตอนนั้นบรดาปัญจวัคคีก็พากันละทิ้งพระองค์
พวกเราชาวพันธมิตรพอจะได้ข้อคิดอะไรจากเรื่องนี้กันบ้างไหม พันธมิตร กทม.
amattikul@yahoo.com
+++
เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว
เพราะก็ทราบกันดีอยู่แล้สว่าทุกวันนี้พรรคร่วมรัฐบาลนั้นก็ยังมีอิทธิพลต่อ
การตัดสินใจหลายอย่างเพื่อแวงหาผลประโยชน์
เห็นแก่ตัวอยู่มากไม่ได้มาช่วยชาติอย่างจริงจัง
ยังมีการเกรงใจผู้มีอิทธิพลอยู่
ทั้งนี้จึงสนับสนุนเต็มที่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเพื่อชาติจงสู้ต่อไป
ttn
+++
คุณสนธิ..อาจเหมาะสมในตำแหน่ง หัวหน้าพรรค..แต่
1. อาจจะเสียสัตย์เพื่อชาติ...แท้จริงคืออะไร
2. จะเป็นจุดเริ่มของจุดจบของการเมืองภาคประชาชนใน
นามพันธมิตรที่บริสุทธิ์...หรือไม่
3. พรรคการเมืองของพันธมิตร คือ การเมืองใหม่ ใน
ลักษณะใด(โดยแก่นแท้)
4. การเมืองคือเรื่ออำนาจ และผลประโยชน์ บอกว่าไม่
ต้องอำนาจ แล้วทำไมต้องนำไปสู่การตั้งพรรคการเมือง
5. เป็นความอยาก ต้องการ "การเมืองใหม่" โดยไม่รีรอ
แล้วใช่ไหม ( กิเลสตัณหาแห่งการเมืองใหม่)
6. เทียนแห่งธรรม กลายเป็นแสงนีออน ไปแล้ว ใช่ไหม
ข้าพเจ้า จำต้องคัดค้าน การผูกโยง การเมืองภาค
ประชาชน เข้ากับพรรคการเมือง ที่อาจจะมีขึ้น การตั้ง
พรรคการเมืองของพันธมิตร เสมือน "พระที่สึกแล้ว"
ย่อมไม่มีทางถึงนิพพาน การเมืองใหม่ ที่อยากได้จะคง
ความหมายอยู่เหมือนเดิมก็อาจหาได้ไม่ เป็นความแห่ง
กลุ่ม เหล่า หรือ สาวก ไปเสียแล้ว มิอาจจุดประกาย
สว่างอย่างยั่งยืน อย่างแน่นอน เกิด ย่อมต้องดับ ไร้
ซึ่งจิตวิญญาน ที่เป็นวิถี ของการเมืองถาคประชาชน
ไปอย่างสิ้นเชิง
รัฐคติ
+++
หัวหน้าพรรคก็จะเลือกมาจากสมาชิกเสนอชื่อมาจากทั่วประเทศ
ภายใต้ความเห็นชอลของสภาพธม.ฯที่มี ๕ แกนนำกับอีก 152 กรรมการสภาฯ
(ตัวแทนจาก จว. ละ ๒ ท่าน
และร่วมกันเป็นผู้ให้คำแนะนำในการเดินงานทางการเมืองในสภาฯ
และเดินงานทางภาคประชาชนบนท้องถนน
เอาผู้ชนะของแต่ละเขตสัดส่วนที่มีคพะแนนสูงสุด สามคนมาให้ สภา พธม. ฯ
ลงคะแนนลับห่าหัวหน้าพรรค
ห้า แกนนำจะไม่มีสิทธิในการลงให้ประชาชนเลือก แต่ ห้าแกนนำมีสิทธิ์
วีโต้ได้ในทุก ๆ กรณ๊ เหมือน สมาชิกหลักของสหประชาชาติ หรือ
แม้ว่ากฏบัตรใดใดที่ต้องผ่านสภา พธม. ก็ ต้องให้ทั้ง
ห้าคนเห็นชอบทั้งหมดก่อนจึงประกาศใช้ได้
ชั้นที่ ๑
ห้าแกนนำ
ชั้นที่สอง
152 กรรมการที่เลือกมาจากประชาชนในทุกจังหวัดใน ประเทศไทย
ให้สมาชิกเลือกตัวแทนมาจากทุกตำบลในทุกอาชีพเพื่อเข้าไปเป็นสมาชิก
พรรค พันธมิตร ของประชาชนทุกอาชีพ เพื่อ ผลประโยชน์ส่วนใหญ่ของราษฏร
ในระบอบ ประชาธิปไตย
jack
++
ในครั้งนี้ถ้าเป็นประชามติแล้วคุณสนธิควรรับ
เมื่อก่อนไม่ใช่มติและตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะตั้งพรรคมันคนละประเด็นกันอย่า
เอามารวมกัน เราคิดว่าพวกที่ไม่เห็นด้วยจะยอมให้บ้านเมืองมันเป็นอย่างนี้ต่อไปหรือ
ตอนนี้ประเทศชาติต้องการคนดีคนเก่งมีธรรมและที่สำคัญคือต้องการคนกล้าที่จะ
สามารถคัดค้านและไม่เห็นแก่หน้าใครๆที่คิดที่จะมาโกงชาติ
ประเทศจะได้มีจุดเปลี่ยนเสียที
ถ้าคุณสนธิไม่ได้เข้าสภามันก็ยากที่จะทำอะไรๆได้เพราะสภามีแต่คนที่คิดจะมา
โกงกับงบประมาณไม่คิดเกรงใจประชาชนเลย
พวกคุณคิดว่าใครเล่าที่จะมีความรู้ความสามารถและกล้าพูดความจริงเช่นคุณสนธิ
พวกเรามาช่วยให้กำลังใจกับคุณสนธิที่จะต่อสู้แทนพวกเราน่าจะดีกว่าแต่หากคุณ
สนธิเปลี่ยนไปพวกเราพธม.ก็ค่อยสำแดงพลังขับไล่คุณสนธิกันดีไหม
พธม.กรุงเทพ
+++
การที่คุณสนธิจะรับเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่นั้น
ไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงเลย...
คงมีเพียงคุณสนธิและคนใกล้ชิดเท่านั้นที่ทราบ
บางทีที่เรามานั่งพิมพ์ ๆ ๆ ๆ ๆ แสดงความเห็นกัน
อย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยนานาเหตุผล
จริงแท้แล้วเราหลาย ๆ คน กลับสรุปผลการต่อสู้
ของพธม.ที่จบไปแล้วได้ไม่ลึกซึ้งดีพอเลย....
ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงสำคัญที่จะได้รับรู้ว่า
มวลชนที่เหลือยืนอยู่เคียงข้างกันมีจำนวนเท่าไหร่...
และเหตุผลที่พวกเขายังคงอยู่คืออะไร...
และที่สำคัญ...เราควรฟังความเห็นจากคนข้างนอกด้วย
ว่าเขามองเราอย่างไร...ในส่วนพวกเรานั้นสนุกกันแน่
นอน ร้องรำทำเพลง ด่าคนที่เราไม่ชอบกันมันปาก
แล้ว เนื้อแท้ เนื้อในจริง ๆ
ที่เราเฝ้าเพียรขับเคลื่อนคืออะไรกัน..."การเมืองใหม่" หรือ?
แล้วไหนมีเป็นรูปเป็นร่างอะไรขึ้นมาบ้างหรือยัง
ยังไม่ผสมพันธุ์เลยด้วยซ้ำ
มีแต่ล่องลอยอยู่ในอากาศ...การตั้งพรรค
อาจเป็นทางหนึ่งที่จะรวบรวมคำพูดผ่าน ๆ มา ให้เห็นเป็นนโยบาย
ให้เห็นเป็นโครงสร้างของการเมืองใหม่
เมื่อมีพรรค เราจะร่วมเข็นอีกครั้ง ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมแล้วกัน
ไปได้ก็นับว่าเป็นบุญของบ้านเมือง แต่ถ้าไม่
ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
พันธมิตรฯ ปทุมฯ
+++
ถ้าไปถามเสียงส่วนใหญ่ว่า
ควรลดภาษีเงินได้ใหม?
ถ้าไปถามเสียงส่วนใหญ่ของข้าราชการว่า
ควรปรับขึ้นเงินเดือนใหม?
ถ้าไปถามเสียงส่วนใหญ่ของนักเรียนว่า
ควรยกเลิกสอบเอนทรานซ์แล้วให้ได้เรียนวิชาที่ชอบจะเอาใหม?

รับรองเสียงส่วนใหญ่จะเห็นด้วย แล้วถ้ารัฐบาลไม่ทำตามเสียงส่วนใหญ่นี้
ก็ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลไม่เป็นประชาธิปไตย
ตัวอย่างข้างบนนี้เป็นตัวอย่างที่แกนนำพันธมิตร
ควรพิจารณาเสียงส่วนใหญ่แต่ไม่จำเป็นต้องทำตามเสมอไป
และควรมีเหตุผลประกอบหากทำไม่ได้
เช่นถ้าเสียงส่วนใหญ่อยากให้คุณสนธิมามีตำแหน่งทางการเมือง
คุณสนธิก็ควรปฎิเสธแล้วให้เหตุผลว่าทำไม ไม่ควรอ้างเสียงส่วนใหญ่(ถ้าผิดหลักการ
ไม่งั้นก็คล้ายรัฐบาลก่อนอ้างที่มาว่ามาจากเสียงส่วนใหญ่)
ไม่ควรอ้างว่าสถานการณ๋เปลี่ยนไป(ไม่งั้นใครก็อ้างแบบนี้ได้เสมอเวลาผิดคำพูด)
ไม่ควรอ้างยอมเสียสัตย์เพื่อชาติ(คนอ้างแบบนี้เคยเสียคนไปแล้ว)
นนท์
+++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น